เมื่อวันที่ 18 กันยายน แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมีความเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันจัดตั้ง “สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” โดยจะแยกกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม ในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ไปร่วมกับสมาคมสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย(TFIT) และสมาคมโทรคมนาคม รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไอที เพื่อหวังจะให้มีบทบาทเทียบเคียงกับ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดยอ้างว่าเพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัลสอดรับกับบทบาทของกระทรวงดีอี
“กระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติมีมติเห็นชอบในหลักการและสาระสำคัญของ ‘ร่างพระราชบัญญัติสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ….’ และเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในแวดวงโทรคมนาคมมีความกังวลถึงแนวคิดในการจัดตั้งสภาดิจิทัลแห่งชาติ เพราะอาจจะมีกลุ่มทุนใหญ่เข้ามาครอบงำ และเป็นผู้ผลักดันเรื่องดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ มีความพยายามจะขับเคลื่อนแนวนโยบายด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลผ่านสมาคมโทรคมนาคมในหลายเรื่องแต่ยังไม่บรรลุผล จึงหวังใช้กลุ่มคลัสเตอร์ไอทีใน ส.อ.ท.และสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าว โดยแยกบทบาทออกมาจากสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า การจัดตั้งสภาดิจิทัลแห่งชาติที่มีกลุ่มทุนใหญ่เข้าไปมีบทบาทและกระทรวงดีอีคุมกลไกการจัดตั้งเบ็ดเสร็จ โดยหวังว่าจะให้สภาดิจิทัลแห่งชาติขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมไอทีไทยให้เทียบชั้นมาตรฐานสากลนั้นคงเป็นไปได้ยาก จะเห็นได้จากการตั้งสภาเกษตรแห่งชาติและสมาคมด้านปศุสัตว์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ ที่มีคนของกลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าไปมีบทบาทและขับเคลื่อนแนวนโยบายต่างๆ นั้น สะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าไม่สามารถจะพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นแต่อย่างใด
“เชื่อว่าเป้าหมายหลักของการจัดตั้งสภาดิจิทัลแห่งชาตินั้น เพื่อคานอำนาจคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และเพื่อผลักดันนโยบายการใช้โครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคมตอบสนองความต้องการของกลุ่มทุนใหญ่ที่ต้องการใช้ประโยชน์โครงข่ายโทรคมนาคมของภาครัฐผ่านสภาดิจิทัลแห่งชาตินี้” แหล่งข่าวกล่าว