เมื่อวันที่ 22 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3 ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยในครั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้เป็นประธานเปิดศูนย์บริการประชาชนของกระทรวงพาณิชย์ด้วย
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดภายหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น ระบบคมนาคม รถไฟ น้ำ และที่อยู่อาศัย โดยเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามแผนงาน และได้สั่งการให้ทุกกระทรวงจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว 20 ปี แบ่งเป็นช่วงระยะ 5 ปี ช่วงแรกเริ่ม 2560-2564 ซึ่งมีการกำหนดกรอบการทำงาน เป้าหมาย และงานเร่งด่วนที่ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งจะทำอย่างไรให้ไทยเข้มแข็ง ส่วนหนึ่งจะบรรจุในแผนปฎิรูปประเทศ โดยกำหนดให้ทุกกระทรวงจัดส่งแผนยุทธศาสตร์ภายในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ พร้อมกับที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการทำงานผลจากการประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯครั้งก่อนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องการกระจายข้าราชการที่จบปริญญาเอกไปยังภาควิทยาศาสตร์และการเกษตรมากขึ้นให้สอดรับนโยบายไทยแลนด์สตาร์ตอัพ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะจัดงานสตาร์ตอัพไทยแลนด์ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง 28 เมษายน-1 พฤษภาคม
“นายกฯ ย้ำว่า ตอนนี้เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทุกกระทรวงต้องตามโลกให้ทัน โดยสั่งการบ้านให้ทุกกระทรวงไปทำแผน 20 ปีข้างหน้า อยากเห็นกระทรวงตัวเองเป็นอย่างไร ทำให้ทุกกระทรวงต้องปรับโครงสร้างการทำงาน และให้มีส่วนในการผลักดันให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และที่สำคัญ ทุกกระทรวงต้องอธิบาย ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่ากำลังทำอะไร ทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และยังชมการเปิดให้บริการศูนย์บริการประชาชนกระทรวงพาณิชย์ (MOC Service Center) ที่ได้รวมงานบริการต่างๆ ของกระทรวงมาไว้ที่เดียวกัน ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงอื่นๆ ดูเป็นต้นแบบ และนำไปดำเนินการ” น.ส.ชุติมากล่าว
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า นายกฯ ยังได้ชมการเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่กระทรวงได้นำเมนูจากร้านอาหารหนูณิชย์ พาชิม มาเสิร์ฟให้กับผู้เข้าร่วมประชุม โดยเมนูหลักคือ ข้าวกะเพราไก่/หมู/เนื้อ ไข่ดาว แกงจืด โดยข้าวเป็นข้าวสังข์หยดและข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งนายกฯ ชอบใจ แต่บอกว่า กะเพรายังต้องปรับปรุง แห้งไป ท่านชอบไข่ดาวว่าอร่อยดี และยังบอกอีกว่า ไม่เคยเห็นการจัดงานแบบนี้ แต่ก็ถือว่าประหยัดดี
