“เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวปลายสัปดาห์ หลัง ECB ส่งสัญญาณถึงโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม”
ศูนย์วิจัยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ใกล้ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยสามารถล้างช่วงอ่อนค่าที่ทำไว้ตั้งแต่ต้นปี 2559 ได้เกือบทั้งหมด โดยเงินบาทและสกุลเงินอื่นในเอเชียดีดตัวแข็งค่าขึ้นโดยเฉพาะในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB กำลังเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ เงินริงกิตได้รับแรงหนุนจากมติของธนาคารกลางมาเลเซียที่ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงมาที่ 3.50% นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อคืนสินทรัพย์เสี่ยงตามการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับโพสิชั่นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในสัปดาห์ถัดไปด้วยเช่นกัน
สำหรับในวันศุกร์ (22 ม.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 36.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพุธก่อนหน้า (15 ม.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 ม.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.00-36.30 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาข้อมูลการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนธ.ค. ของไทย ตลอดจนผลการประชุมเฟด (26-27 ม.ค.) และผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (28-29 ม.ค.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนธ.ค. จีดีพีประจำไตรมาส 4/58 ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI เขตชิคาโก และ PMI ภาคบริการขั้นต้นเดือนม.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนน่าจะยังให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ตลาดการเงินของจีนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ฟื้นตัวปลายสัปดาห์ หลัง ECB ส่งสัญญาณถึงโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,268.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.78% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 11.14% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 41,703.81 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 509.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.72% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยทรงตัวในวันจันทร์ ก่อนที่จะปรับพุ่งขึ้นในวันอังคารจากแรงซื้อเก็งกำไรว่าทางการจีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังเศรษฐกิจจีนปี 2558 แสดงถึงการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปี อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในช่วงกลางสัปดาห์ ตามการร่วงลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ก่อนที่จะฟื้นตัวในวันศุกร์ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังอีซีบีส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 ม.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 1256 และ1240 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1278 และ 1295 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเฟด (FOMC) รวมทั้ง การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนไทย โดย ธปท สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน จีดีพีไตรมาส 4/58 (Advance Est.) และข้อมูลการค้าสหรัฐฯ ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี รวมทั้ง เครื่องชี้ภาคการผลิตในยูโรโซน
