จบมาตรการอสังหาฯรัฐ ธอส.เล็งออก 2 โครงการใหม่ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ’บ้านสวัสดิการทหาร’ และสินเชื่อบ้าน 3 ล้านอัพ

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยแผนการดำเนินงานของธนาคารว่า เตรียมออกโครงการสินเชื่อบ้านระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ คาดว่าจะเปิดตัวภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่จากเดิมรองรับเพียงกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองจะหมดลงในสิ้นเดือนเมษายนนี้

นายสุรชัยกล่าวว่า ธอส.ยังมีแผนจะออกโครงการบ้านสวัสดิการทหารให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ คือ ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไปและผ่อนชำระด้วยการตัดบัญชีเงินเดือน ทั้งกู้เพื่อสร้างบ้านและกู้เพื่อซื้อบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์ซึ่งจะหารือรายละเอียดกับปลัดกระทรวงการคลังภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ มีแผนขยายโครงการบ้านสวัสดิการไปยังหน่วยงานและองค์การปกคลองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ด้วย

“ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เงินฝากของธนาคารขยายตัวได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากธนาคารไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากที่ในเดือนสิงหาคมนี้ เงินคุ้มครองเงินฝากจะเหลือเพียง 1 ล้านบาท ทำให้มีสภาพคล่องเหลือที่จะขยายสินเชื่อได้อีก จึงขยายฐานลูกค้ากลุ่มบ้านระดับราคามากกว่า 3 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ซื้อบ้านระดับกลางและลูกค้าของ ธอส.มีทางเลือกในการกู้มากขึ้น แต่ต้องหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้งถึงเกณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนการตลาดดึงลูกค้าเข้ามากู้กับธนาคารโดยจัดตั้งศูนย์การยื่นขอสินเชื่อแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว หรือวัน สต๊อปเซอร์วิส ที่ ธอส.สำนักงานใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่จะยื่นเอกสาร ไม่จำเป็นต้องไปยังสาขาอื่นๆ ส่วนโครงการบ้านสวัสดิการทหาร มองว่าเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพและมีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลต่ำ เพราะหักบัญชีเงินเดือน ทำให้ไม่มีการผิดนัดชำระ”

นายสุรชัยกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการบ้านประชารัฐว่า มีลูกค้ามาขอยื่นกู้แล้วกว่า 26,000 ราย วงเงินรวม 21,000 ล้านบาท จำนวนนนี้มีเอกสารพร้อมยื่นกู้ 2,000 ราย รวม 1,700 ล้านบาท ทำให้การอนุมัติสินเชื่อยังล่าช้า ซึ่งธนาคารจะขันนอตรเร่งรัดการอนุมัติสินเชื่อให้เร็วขึ้น โดยได้จัดทำคลินิก ธอส. เพื่อบ้าน เพื่อประชาชน ให้คำแนะนำการเตรียมความพร้อมแก่ผู้มีรายได้น้อยในการกู้ซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะทำให้อนุมัติสินเชื่อโครงการบ้านประชารัฐหมดภายใน 3 เดือน ส่วนการขยายวงเงินเพิ่มเติมหลังจากนี้ต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งธนาคารยังสามารถปล่อยสินเชื่อได้อีก

Advertisement

นายสุรชัยกล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อใหม่ขยายตัว 165,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีที่ผ่านมาที่ 157,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 37,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,568 ล้านบาท ด้านสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 878,367 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.80% จากสิ้นปี 2558 ขณะที่ไตรมาสแรกมียอดเงินฝากแล้วกว่า 39,000 ล้านบาท ทำให้เงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 5.45% อยู่ที่ 765,656 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เอ็นพีแอลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ คิดเป็นมูลค่า 49,992 ล้านบาท หรือ 5.69% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 ที่อยู่ที่ 5.45% อย่างไรก็ตาม ปีนี้ธนาคารจะพยายามควบคุมดูแลทั้งสินเชื่อเก่าและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ คาดว่าเอ็นพีแอลสิ้นปีจะไม่เกิน 5.45% นอกจากนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นอีก 3,000 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีอัตราเงินสำรองต่อเอ็นพีแอลอยู่ที่ 103%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image