เล็งชงรถไฟไทย-จีนเฟส 2 ทัน รบ.นี้ ตื๊อ ‘ญี่ปุ่น’ ร่วมลงทุนไฮสปีด

แฟ้มภาพ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟความเร็งสูงไทย-จีน เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 350 กิโลเมตร (กม.) จะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ตั้งเป้าเสนอผลการศึกษาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในรัฐบาลชุดนี้ และเตรียมเสนอของบกลาง 1,200 ล้านบาท เพื่อออกแบบรายละเอียดของโครงการ ขณะนี้กำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะเสนอ ครม.เห็นชอบใน 2-3 เดือนข้างหน้า แต่การออกแบบรายละเอียดคงเสร็จไม่ทันรัฐบาลนี้

รายงานข่าวจาก รฟท.แจ้งว่า ผลการศึกษาความเหมาะสมโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน และจะยื่นผลการศึกษาดังกล่าวเสนอ ครม.ในรัฐบาลนี้ พร้อมของบประมาณออกแบบรายละเอียดคู่ขนานไปด้วยกัน

รายงานข่าวข่าวแจ้งว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทางรวม 252.5 กม.วงเงินรวม 1.79 แสนล้านบาท ขณะนี้เหลือการประมูลงานโยธาอีก 13 สัญญา จากทั้งหมด 14 สัญญา สัญญาที่กำลังจะประมูลเป็นลำดับแรก คือเส้นทางช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 3,300 ล้านบาท โดยเตรียมนำร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) เปิดรับฟังความเห็นบนเว็บไซต์เป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์หน้า ตั้งเป้าจะประกาศเชิญชวนผู้รับเหมาได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้และทราบผลผู้ชนะการประมูลในเดือนธันวาคมนี้ ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิดดิ้ง ผู้รับเหมาสามารถร่วมประมูลได้ทั้งรายกลางถึงรายใหญ่ เพราะอ้างอิงเงื่อนไขจากโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ผู้เข้าประมูลจะต้องมีผลงาน 15% ของมูลค่าโครงการหรือคิดเป็น 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ข่าวแจ้งว่า สำหรับการประมูลงานโยธาที่เหลืออีก 12 สัญญา วงเงินกว่า 1.1 แสนล้านบาท กระทรวงคมนาคมต้องการให้เปิดประมูลพร้อมกันทั้ง 12 สัญญาภายในครั้งเดียว แต่ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ทัน เพราะฝ่ายจีนกำลังทบทวนข้อมูลบางส่วน จึงอาจจะต้องประมูลแบ่งออกเป็น 5 สัญญาแรกและ 7 สัญญาหลัง แต่ไทม์ไลน์เบื้องต้นของงานโยธาทั้ง 12 สัญญา คือจะนำทีโออาร์ขึ้นรับฟังความคิดเห็นในเดือนพฤศจิกายน ออกประกาศเชิญชวนในเดือนธันวาคม เปิดให้ยื่นข้อเสนอในเดือนมกราคม 2562 ลงนามสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2562 โดยทุกสัญญาต้องเริ่มก่อสร้างไม่เกินเดือนเมษายน 2562

Advertisement

นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะทำงานด้านเทคนิค โครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ฝ่ายไทยยังต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) แบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี ที่หารือไว้ตั้งแต่แรกว่าจะมีความร่วมมือจีทูจีด้านเทคโนโลยีรถไฟชินกันเซ็ง แต่ฝ่ายไทยต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนในโครงการด้วย ได้ขอให้พิจารณาว่าจะร่วมลงทุนส่วนใดได้บ้าง และขอให้พิจารณาว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น การออกแบบขบวนรถละ 6 ตู้ เหลือ 4 ตู้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางและมีความเป็นไปได้มากขึ้น แต่ยืนยันว่าผลการศึกษายังกำหนดให้รถไฟไทย-ญี่ปุ่นมีความเร็ว 300 กม.ต่อชั่วโมง

“ได้ให้โจทย์ว่าญี่ปุ่นจะร่วมลงทุนในส่วนไหนได้บ้าง สัดส่วนเป็นยังไง แล้วก็มาคุยกันอีกครั้ง เพราะการลงทุนแค่บางงานอาจจะคุ้มค่ามากกว่า จึงขอให้ดูว่าสนใจจะร่วมลงทุนส่วนไหน” นายสราวุธกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image