รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. คณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษฯ ได้หารือเรื่องการจ่ายโบนัสพนักงานประจำปี 2561 เนื่องจากอัตราการจ่ายโบนัสในปีนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าปีก่อนๆ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 5 เท่าของเงินเดือน เนื่องจากก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ 2561 เพียงไม่กี่วัน ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้การทางพิเศษฯ จ่ายค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เป็นวงเงิน 1,790 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นวงเงินกว่า 4,000 ล้านบาท
โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยืนยันให้การทางพิเศษฯ นำค่าชดเชยดังกล่าว ไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในงบประมาณปี 2561 ด้วย อย่างไรก็ตาม การทางพิเศษฯ จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า แม้จะบรรจุค่าชดเชยดังกล่าวในงบบัญชี แต่ไม่ควรนำปัจจัยนี้ไปประเมินโบนัสพนักงาน เพราะค่าชดเชยดังกล่าวเกิดจากการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอดีต
“ถ้าไม่มีเรื่องค่าชดเชย โบนัสปีนี้ก็น่าจะอยู่ประมาณ 5 เท่าของเงินเดือน พอมีเรื่องนี้เข้ามาก็ตอบไม่ได้ว่าโบนัสจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากนำเรื่องนี้ไปรวมกับการพิจารณาโบนัสพนักงานด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังพอมีเวลา ปกติเราจะสรุปเรื่องโบนัสในเดือนธันวาคมและจ่ายโบนัสในช่วงต้นปีถัดไป”
นายชาญชัย โพธิ์ทองคำ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(สร.กทพ.) เปิดเผยว่า พนักงานและสหภาพฯ ก็ได้ยินกระแสข่าวเรื่องอัตราโบนัสในปีนี้จะลดลง คือ ต่ำกว่าปกติที่ได้รับในอัตรา 5 เท่าของเงินเดือน แต่ประเด็นนี้ไม่มีผลกระทบใดๆ พนักงานและสหภาพฯ ยอมรับได้ ไม่ว่าจะได้โบนัสเท่าไหร่ เพราะเงินโบนัสถือเป็นผลพลอยและกำลังใจของพนักงานเท่านั้น
แต่สิ่งที่สหภาพฯ เป็นห่วงคือ การทางพิเศษฯ ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้เอกชน แทนที่จะนำวงเงินดังกล่าวส่งให้รัฐบาลตามปกติ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อรายได้แผ่นดิน
