‘พลัส’ เผยราคาที่ดินกรุงเทพกรีฑาพุ่งรับอานิสงส์รถไฟฟ้า

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้สำรวจทำเลศักยภาพที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นในปัจจุบัน พบว่าทำเลกรุงเทพกรีฑาเป็นทำเลที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยปัจจัยสนับสนุนที่หลากหลาย ทั้งด้านการคมนาคมซึ่งมีระบบรางและถนนโครงการใหม่ตัดผ่าน เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สถานีศรีกรีฑา) ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เชื่อมโยงคนในพื้นที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่เป็นถนนเส้นหลักหรือถนนใหญ่หลายเลนตัดผ่านเชื่อมจากถนนหัวหมากไปยังร่มเกล้า และทำเลกรุงเทพกรีฑายังอยู่ใกล้ทางด่วนทำให้การจราจรและการเดินทางคล่องตัว โดยเฉพาะช่วงกรุงเทพกรีฑาตอนต้นที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวก อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง และโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ รวมถึงยังมีสนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ ที่อยู่อาศัยในละแวกนี้จึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนทุกวัยรวมทั้งกลุ่มที่ต้องการดูแลสุขภาพ มีพื้นที่สีเขียวให้ผ่อนคลาย รวมถึงกลุ่มผู้ปกครองที่มองหาสถานศึกษาใกล้บ้านไว้ให้บุตรหลานในอนาคต

นายอนุกูลกล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านกรุงเทพกรีฑาปรับเพิ่มขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่าปี 2556–2561 พบว่าราคาที่ดินบริเวณกรุงเทพกรีฑาตอนต้นปรับขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของที่ดินในกรุงเทพและปริมณฑลที่ปรับขึ้นเฉลี่ยประมาณ 4% ต่อปี ดังนั้นราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพกรีฑาจึงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยโครงการคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการซื้อ-ขายอย่างรวดเร็ว มีอัตราดูดซับถึง 30 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือน ด้านราคาของคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา ราคาโครงการที่เปิดขายปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อตารางเมตร และมีการเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2558 – 2561 ถึง 15% ต่อปี ดังนั้นโครงการที่จะเปิดขายใหม่จึงคาดว่าจะมีแนวโน้มราคาเติบโตขึ้นจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น และดีมานด์ซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้ที่เพิ่มมากขึ้น

“คอนโดมิเนียมที่นำมาขายใหม่ (รีเซล) พบบางโครงการให้ผลตอบแทนสูงถึง 20% ต่อปี ส่วนตลาดปล่อยเช่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7% อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจุบันระดับราคาของคอนโดมิเนียมเติบโตสูงขึ้นกว่าราคาของที่ดินที่ปรับขึ้น และคาดว่ามูลค่าของที่ดินจะเติบโตขึ้นมากกว่าที่ดินโซนอื่นในบริเวณใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการในการเข้าไปลงทุน ขณะที่บ้านเดี่ยวในทำเลกรุงเทกรีฑา มีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวจำนวนมาก โดยภาพรวมตลาดเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ โครงการที่เติบโตได้ดีเป็นเซกเม้นท์ระดับบน มีราคาเสนอขายในปัจจุบันอยู่ที่ 15 ล้านบาทต่อหลัง และพบโครงการที่ราคาขายสูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อหลัง และราคามีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ประมาณ 35% ในภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวโครงการที่มีการเสนอขายในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นโครงการเก่า มีจำนวนเปิดขายใหม่น้อย เพราะเหลือพื้นที่พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ไม่มาก ส่งผลให้ระดับราคาของโครงการบ้านเดี่ยวที่จะเสนอขายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น”นายอนุกูลกล่าว

นายอนุกูลกล่าวว่า กรุงเทพกรีฑานับเป็นทำเลสำหรับบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ด้านภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวในเขตพื้นที่กรุงเทพกรีฑาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเสนอขายโครงการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมมีจำนวนการเสนอขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ สอดคล้องกับการขยายตัวของดีมานด์ในตลาด ส่งผลให้อัตราการตอบรับอยู่ในเกณฑ์ดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image