9เดือน “แผ่นดินทอง” โกยกำไรกว่า 1.4พันล.มั่นใจรายได้ปี 61 ตามเป้า

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เปิดเผยผลประกอบการสำหรับรอบระยะเวลา 9 เดือน (1 มกราคม 2561 – 30 กันยายน 2561) มีรายได้รวมจำนวน 11,606.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 1,487.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนจากความนิยมต่อเนื่องในโครงการแนวราบ ซึ่งถือเป็นการเติบโตตามแผนการขึ้นสู่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ 5 อันดับแรกของประเทศไทยในปี 2563

นายธนพลกล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเฉพาะรายได้หลักจากการขายอสังหาริมทรัพย์งวด 9 เดือน (1 มกราคม 2561 – 30 กันยายน 2561) บริษัทฯ มีรายได้ส่วนนี้รวม 10,290.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,221.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยประสบความสำเร็จทั้งโครงการใหม่ที่เริ่มเปิดขาย และเริ่มโอนในปี 2561 รวมถึง โครงการเดิมที่ยังขาย และโอนได้อย่างต่อเนื่อง โดยยอดโอนในรอบระยะเวลา 3 เดือน (1 กรกฎาคม 2561 – 30 กันยายน 2561) เพิ่มขึ้นจำนวน 53 หลัง หรือเพิ่มขึ้น 6% และมียอดโอนในรอบระยะเวลา 9 เดือน (1 มกราคม 2561 – 30 กันยายน 2561) เพิ่มขึ้น 448 หลัง หรือเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายบ้านราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วนสูงขึ้นอย่างชัดเจน

นายธนพลกล่าวว่า ในขณะที่รายได้จากการให้เช่าและบริการ งวด 9 เดือน (1 มกราคม 2561 – 30 กันยายน 2561) บริษัทฯ มีรายได้ส่วนนี้รวม 735.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากอัตราการรับรู้รายได้จากอัตราการเช่าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าสูงกว่า 97%

“ความสำเร็จของบริษัทฯ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนสามารถสร้างความนิยมของลูกค้าในโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทฯ ยังสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (1 มกราคม 2561 – 30 กันยายน 2561) เป็นไปในทิศทางที่ดี บริษัทฯ สามารถทำรายได้รวม 11,606.73 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 65% จากเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2561 (1 มกราคม 2561 – 31 ธันวาคม 2561) รวม 17,800 ล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ (1 ตุลาคม 2561 – 31 ธันวาคม 2561) บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดโครงการรวม 5 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์โฮม 2 โครงการ และนีโอโฮม (บ้านแฝด) 3 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท รวมทั้งปี 2561 บริษัทฯ จะเปิดโครงการแนวราบทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,700 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮม จำนวน 10 โครงการ โครงการนีโอโฮม (บ้านแฝด) จำนวน 5 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 2 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด 1 โครงการ นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ซึ่งมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ บริษัทฯ จึงยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”นายธนพลกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image