“อัลไซเมอร์” คือหนึ่งในโรคที่มักจะถูกพบเจอในกลุ่มวัยชรามากที่สุด ตัวเลขโดยเฉลี่ยมีผู้สูงอายุทั่วโลกเป็นโรคอัลไซเมอร์ถึง 30% และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามสภาวะความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด มีผู้พัฒนา หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่มีชื่อว่า “ดินสอมินิ หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ” เพื่อช่วยลดความวิตกกังวลจากลูกหลานเครือญาติของผู้ป่วย และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าว อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ใหญ่ที่เป็นอัลไซเมอร์ ไล่ตั้งแต่
1.การป้อนคำสั่งหุ่นยนต์ในรูปแบบของคำสั่งเสียง อาทิ โทรหาลูกหลาน, เปิดเพลง, เล่นเกมเตือนความจำ เรียกรถพยาบาล ฯลฯ
2.การใช้เอไอในการจดจำใบหน้าบุคคลในครอบครัว โดยที่บริเวณส่วนหัวของดินสอมินิ จะมีกล้องเซ็นเซอร์ที่ผู้ดูแลหรือลูกหลานของผู้ป่วยสามารถสอนให้ดินสอมินิจดจำใบหน้าของพวกเขาได้ เพื่อที่จะสามารถตรวจเช็กตารางการกินยาหรือข้อมูลที่จะมีผลต่ออาการของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ ในแง่ของการสร้างความรู้สึกเป็นมิตรเอง ดินสอมินิก็จะทำการทักทายผู้ดูแล ลูกหลาน หรือบุคคลที่ถูกสอนให้จำใบหน้าไว้ได้อีกด้วย
3.ใช้เอไอในการเฝ้าสังเกตกิจวัตรที่ผู้สูงอายุทำประจำ เพื่อแจ้งเตือนหากพบว่าผิดปกติ ไม่เพียงแต่จะมีเซ็นเซอร์บันทึกใบหน้าของผู้ดูแลหรือคนในครอบครัว แต่ในบริเวณเดียวกันนี้เอง ดินสอมินิยังมีกล้องที่ใช้ในการเก็บบันทึกข้อมูลกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุที่ทำประจำเป็นระยะยาว อาทิ เข้านอนเวลาไหน, ตื่นเวลาใดและมีการลุกขึ้นมากลางคืนบ้างหรือไม่ ซึ่งเมื่อดินสอมินิพบเจอกิจวัตรใดที่เพิ่มเข้ามาหรือผิดแปลกจนเกินไปก็จะทำการโทรแจ้งไปยังผู้ดูแลผู้สูงอายุท่านนั้น
อีกหนึ่งประโยชน์ของวิวัฒนาการเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล
นายมะดัน
