น้ำมันดิบลดเหลือ 43.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำลดลง 4 เหรียญ

แฟ้มภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ปรับลดลงกว่า140จุด หลังโดนปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบ WTI ในการซื้อขายเมื่อคนที่ผ่านมาปรับลดลงกว่า 2% ซึ่งก็ได้ฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนและอังกฤษอ่อนแรงลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

ทำให้หลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 17,750.91 จุด ลบ 140.25 จุด หรือ -0.78% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,763.22 จุด ลบ 54.37 จุด หรือ -1.13% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 2,063.37 จุด ลบ 18.06 จุด หรือ -0.87%

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วหน้านิวยอร์กยังคงลดลง ล่าสุดราคาส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับลดลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดตลาดที่ระดับ 43.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยมีรายงานว่าประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงอิหร่านและอิรัก ได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ รวมถึงการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอีก ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดตลาดที่ระดับ 44.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX)ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับลดลง 4 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดตลาดที่ระดับ 1,291.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนมีการเทขายทำกำไร หลังราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image