ศูนย์วิจัยฯไทยพาณิชย์ มองปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาต่อเนื่องสะสม

นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรืออีไอซี เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมาต่อเนื่อง ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลา 4-5 ปีนี้เท่านั้น และไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งรอบใหม่นี้ เป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับการจัดการ เพราะหากมีความเหลื่อมล้ำมากเกินไปจะทำให้เศรษฐกิจระยะยาวไม่ยั่งยืน และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระจายรายได้ของไทยต้องทำให้ดีขึ้นกว่านี้ หรือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข โดยมองว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในปัจจุบันคือ การปรับโครงสร้างในเชิงเทคโนโลยี ทำให้คนที่สามารถประบตัวได้ดีและใช้เทคโนโลยีใหม่จะได้เปรียบกว่าในเรื่องโอกาส สะท้อนจากตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลาง-เล็กลดลง นอกจากนี้จะสังเกตว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในบางเซ็คเตอร์แตกต่างกันค่อนข้างมาก

นายยรรยงกล่าวว่า และสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำคือโอกาสที่เท่าเทียมกัน อย่างเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์ดำเนินการเรื่องการให้สินเชื่อรายย่อยให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้โจทย์หลักของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำคือเรื่องการศึกษา ให้สามารถแข่งขันได้ดีขึ้น รองรับเทคโนโลยีที่ดีขึ้นได้ ส่วนการดำเนินการของรัฐบาลที่เกี่ยวกับมาตรการเก็บภาษีที่ดิน เห็นด้วยในหลักการ การเก็บภาษีที่ดินจะกระตุ้นให้เกิดการใช้ทรัพยากรที่ดินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเข้าถึงทางเลือกวนการลงทุน ที่ผู้มีรายได้สูงจะเข้าถึงทางเลือกได้มากกว่า มีที่ปรึกษาในการบริหารสินทรัพย์ ในขณะที่ผูเมีรายได้น้อยอาจจะมีแค่บัญชีเงินฝากในธนาคาร

“ส่วนการจัดอันดับว่ามีความเหลื่อมล้ำอันดับ 1 อันดับ 2 หรืออันดับ 3 คงไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนัก เนื่องจากดัชนีชี้วัดแต่ละปีอาจจะแตกต่างกัน ซึ่งจะต้องไปดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนด้วยว่าอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญคือจะต้องจัดการเรื่องความเหลื่อมล้ำ ซี่งเข้าใจว่าทุกฝ่ายเข้าใจว่ามีปัญหา” นายยรรยงกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image