“ก.ล.ต.”เผยเงินพีวีดีลูกจ้าง 60% ต่ำกว่า 1 ลบ.ไม่พอใช้หลังเกษียณ

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภายในงานโครงการบริษัทเกษียณสุข ซึ่งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ว่า ในปัจจุบันสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (พีวีดี) ประมาณ 60% มีเงินก้อนสำหรับใช้ชีวิตหลังเกษียณไม่ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่งานวิจัยระบุว่าเงินขั้นต่ำสุดที่ควรมีคือประมาณ 3 ล้านบาท เพราะฉะนั้นโครงการนี้จะช่วยให้สนับสนุนนายจ้างช่วยให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีหลังเกษียณ ผ่านกลไกการออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยนายจ้างมีบทบาทให้ความรู้แก่ลูกจ้าง กระตุ้นให้เกิดการออม และสร้างองค์ประกอบที่เหมาะสมเพื่อช่วยลูกจ้างวางแผนเงินออม ซึ่งมีนายจ้างสนใจสมัครเข้าร่วมกว่า 170 รายแล้ว ครอบคลุมสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่า 3 แสนคน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรกที่ 100 ราย

นายรพีกล่าวว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบันสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากกว่า 80% ยังคงเลือกนโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำหรือลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก ซึ่งอาจทำให้มีเงินไม่พอใช้สำหรับชีวิตหลังเกษียณ นายจ้างจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความตระหนักให้กับลูกจ้าง โดยกระตุ้นให้ลูกจ้างสะสมเงินเต็มสิทธิ 15% ของเงินเดือน มีแผนการลงทุนให้เลือกหลากหลาย รวมถึง
มีแผนแบบสมดุลตามอายุที่ปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติตามช่วงอายุของสมาชิกไว้รองรับด้วย

นายรพีกล่าวว่า ทั้งนี้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์ที่หลากหลาย อาทิ ได้รับเครื่องมือการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วยสื่อและเครื่องมือต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้สื่อสารกับลูกจ้างให้หันมาใส่ใจกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างต่อเนื่องได้  ได้รับสิทธิในการส่งกรรมการกองทุนไปอบรมความรู้ในการบริหารกองทุนในหลักสูตรของสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และส่งผู้แทนฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือพนักงานที่พร้อมเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เข้าร่วมเวิร์คช็อปเพื่อกระตุ้นและถ่ายทอดความรู้สู่เพื่อนพนักงานได้ นอกจากนี้บริษัทจัดการลงทุนที่บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะช่วยให้ข้อมูลและนำเสนอทางเลือกแผนการลงทุนที่หลากหลายและเหมาะสมกับเป้าหมายเกษียณมากที่สุด

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image