ใกล้ประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้ว ภายหลังคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดซองประกวดราคาซองที่ 3 ด้านการเงินไปสัปดาห์ก่อน
ผลปรากฏว่ากิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้งส์ และพันธมิตร หรือ กลุ่มซีพี ประกอบด้วยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด หรือซีพี ถือหุ้น 70% บริษัท China Railway Construction Corporation Limited (ประเทศจีน) ถือหุ้น 10% บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นรวมกัน 15% และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 5% เสนอของบสนับสนุนจากรัฐในราคา Net Present Value (มูลค่าปัจจุบันสุทธิ) อยู่ที่ 117,227 ล้านบาท
ขณะที่กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ ประกอบด้วยบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ถือหุ้น 60% บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20% และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20% เสนอราคาอยู่ที่ 169,934 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบข้อเสนอด้านการเงินทั้ง 2 กลุ่ม ปรากฏว่า กลุ่มซีพีเสนอราคาต่ำกว่ากลุ่มบีเอสอาร์ ประมาณ 52,707 ล้านบาท และต่ำกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้รัฐร่วมลงทุนในกรอบวงเงินไม่เกิน 119,425 ล้านบาท อยู่ที่ประมาณ 2,198 ล้านบาท
ดังนั้น ตามเงื่อนไข รฟท.จะต้องเปิดซองที่ 4 ซึ่งเป็นข้อเสนอพิเศษของผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด คือกลุ่มซีพี เพื่อพิจารณาดูว่ามีอะไรที่เสนอให้รัฐเพิ่มเติมบ้าง
ล่าสุด รฟท.ได้เปิดซองที่ 4 ของกลุ่มซีพีไปแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยให้ทราบ โดยให้เหตุผลว่าขอเวลาแยกหมวดหมู่ของข้อเสนอดังกล่าวออกมาให้ชัดเจนก่อน เช่น อาจจะมีการเสนอเรื่องการใช้ระบบออโตเมติกเพิ่มเติม เป็นต้น
แต่ในวันเปิดให้ยื่นซองประมูล ทาง นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เคยแย้มให้ฟังแล้วว่า ข้อเสนอพิเศษจะเน้นเรื่องของชุมชนที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และพัฒนาท้องถิ่น โดยมีแผนจะให้ผู้พิการใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนเมื่อ รฟท.เปิดซองที่ 4 เพื่อแยกหมวดหมู่ข้อเสนอพิเศษแล้ว ในวันที่ 3 มกราคม 2562 รฟท.จะประชุมร่วมกันเป็นการภายในเพื่อพิจารณาหมวดหมู่ทั้งหมด ก่อนเชิญกลุ่มซีพีมาเจรจาในขั้นตอนการต่อรองราคา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
หากได้ข้อยุติร่วมกันก็จะเสนอ ครม.อนุมัติและลงนามในสัญญาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2562
ส่วนจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้หรือไม่ อีกไม่นานคงชัดเจน!!
นายขันตี