นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการแถลงการเข้าถือหุ้นบริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ จำกัด (PMCT) แล้วเสร็จ ว่า บริษัทฯได้เข้าไปถือหุ้นสามัญทั้งหมดของกลุ่ม PMC ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย จำนวน 1,000,000 หุ้น จาก นาย ตัน ยง เฮง และผู้หุ้นเดิมอีกสองราย (กลุ่มผู้ขายหุ้น PMCT) และถือหุ้นสามัญทั้งหมดใน บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด (PMCS) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์จำนวน 2 หุ้น จากนาย ตัน ยง เฮง และนางสาว ตัน ซู ลัง (กลุ่มผู้ขายหุ้น PMCS) ซึ่งหลังจากควบรวมกันแล้วคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 100% ตั้งเป้ารายได้ในปี 2562 อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซีริคมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท โดยมีแผนขยายการค้าไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเครือข่ายลูกค้าอยู่แล้วใน 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งซีริคประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกาว และ PMC ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์ที่มีกาวเป็นส่วนสำคัญในการผลิต ทำให้การรวมกันในครั้งนี้ จะเป็นการหนุนซึ่งกันและกันให้ดีขึ้น โดยมูลค่าตลาดสติ๊กเกอร์โลกอยู่ที่ 3,8000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายเอก กล่าวว่า การเข้าไปซื้อหุ้นของ PMC ครั้งนี้ บริษัทฯมองว่าเป็นโอกาสที่ดีและจะเป็นส่วนเสริมกันและกัน เป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ ทำให้ยอดขายของซีลิคและกลุ่มกิจการเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์สติกเกอร์ โดยรวมมูลค่าในการเข้าซื้อ PMC อยู่ที่ 1,050 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อ 900 ล้านบาท และเงินทุนจากซีริคเองอีก 150 ล้านบาท ซึ่งมีระยะในการชำระหนี้ 8 ปี แต่อาจมีการหาเครื่องมือในการชำระหนี้ให้เร็วขึ้น ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการหารือร่วมกับฝ่ายบริหารต่อไป และแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ดูจะโตได้น้อยกว่าปีที่ผ่านมานั้นบริษัทฯคาดว่าไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจเลย เนื่องจากส่วนตัวมองว่าตลาดสติ๊กเกอร์ยังสามารถไปได้ดีต่อเนื่องในอนาคต รวมถึงการเลือกตั้งหรือเลื่อนเลือกตั้งก็คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากหากมีการเลือกตั้งก็จะเพิ่มการใช้สติ๊กเกอร์มากขึ้น แต่หากเลื่อนก็ไม่มีผล เพราะปลายทางของสติ๊กเกอร์ที่ผลิตออกมา ส่วนมาไปอยู่ในสินค้าบริโภคมากกว่า
