เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุดของระบบการสื่อสารในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ได้รับรายงานเมื่อเวลา 10.30 น. ว่าสำหรับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู สถานีฐานในจังหวัดกู้กลับมาได้ 26 สถานี สุราษฎร์ธานี ไฟดับเพิ่ม 51 สถานี ชุมพร ระนอง กู้กลับมาได้ครบแล้ว ด้านบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กู้กลับมาได้บางส่วน ส่วนที่ยังกู้ไม่ได้รอเจ้าหน้าที่เคลียร์เพื่อให้เข้าพื้นที่ได้
นายฐากร กล่าวว่า ขณะนี้สถานีฐานของทรู ทุกสถานีฐานมีแบตเตอรี่สำรองจ่ายไฟได้ 6-7 ชั่วโมง หลังไฟฟ้าดับ และเมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแก้ไขระบบไฟฟ้าได้ สถานีฐานก็จะกลับมาใช้ได้ทันที เอไอเอส สถานีฐานในจังหวัดนครศรีธรรมราชทั้งหมด 750 สถานี มีสถานีฐานที่ยังใช้งานไม่ได้เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า 155 สถานี จังหวัดอื่นที่ยังรอไฟฟ้า อาทิ สุราษฏร์ธานี 4 สถานี ตรัง 2 สถานี กระบี่ 2 สถานี ชุมพร 2 สถานี ในส่วนของตัวสถานีฐานไม่ได้รับความเสียหาย และ ดีแทค สถานีฐานในจังหวัดนครศรีธรรมราชแก้ไขได้บางส่วน คงเหลือสถานีที่ยังใช้งานไม่ได้เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า 135 สถานี สุราษฏร์ธานี 8 สถานี ชุมพร 6 สถานี กระบี่ 3 สถานี สงขลา 2 สถานี และตรัง 1 สถานี
นายฐากร กล่าวว่า ส่วนจังหวัดทางฝั่งอันดามันน่าจะมีผลกระทบน้อยลง เนื่องจากลมอ่อนตัวลงทีมงานของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย เร่งแก้ไขสถานีที่ขัดข้อง แต่คงใช้เวลาอีกพอสมควรในบางพื้นที่ ที่ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ต้องรอให้จังหวัด เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปภ. จังหวัด และอาสาสมัคร เคลียร์พื้นที่ก่อน
“สำนักงาน กสทช. ภาค 4 และสำนักงาน กสทช. เขตในพื้นที่ ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย จะเร่งแก้ไขปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้” นายฐากร กล่าว
