ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มผู้บริหารกระทรวงฯ โดยได้กล่าวขอบคุณผู้บริหารกระทรวงฯและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันทำงาน เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และการติดตามรายงานข่าวสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาปึก” ที่เกิดขึ้น ให้ทั้งคนไทยและต่างชาติได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งนอกเหนือจากมุมที่น่ากลัวแล้ว ยังมีมุมที่ดีงามที่น่าถ่ายทอดให้ทุกคนได้เห็นอีกด้วย ทั้งนี้สำหรับข้อความดังกล่าวได้ระบุว่า
“จาก..รมต.วีระศักดิ์ครับ
การเข้าไปสนทนาช่วยผ่อนคลายความกังวลเป็นภารกิจที่น่ายกย่องมากครับ หน่วยงานรัฐฝ่ายอื่นๆจะมีข้อจำกัดด้านภาษา..มีข้อจำกัดที่มักมีหน้าที่ในการบริหารเครื่องมือและระบบขนาดใหญ่..จึงมักไม่มีใครสามารถมีเวลา..สมาธิและความสามารถที่จะสื่อสารแบบเห็นอกเห็นใจได้อย่างที่ทีมTAC. ทีมททท.ในพื้นที่…ทีมตำรวจท่องเที่ยว และทีมจากกรมการท่องเที่ยวในสนามทำอยู่..
ภาพเหล่านี้..ผมได้จัดเป็นรายงานประกอบการอธิบายส่งถึงผู้บริหารระดับสูงสุดในรัฐบาล..ตั้งแต่นรม.(นายกรัฐมนตรี) ถึงครม. ท่านนรม.รับทราบเรื่องการตั้งศูนย์ส่วนกลางกระทรวงที่รองปลัดสันติบริหารพร้อมทีมตลอดข้ามวันข้ามคืน การเชื่อมระบบส่วนกลางกับทกจ.และททท.ในท้องที่ต่างๆ
การบริหารข่าวสารที่ททท.ดำเนินการผ่านภาษาต่างประเทศ. ..มีการมอนิเตอร์ข่าวในตลาดตปท…ซึ่งไม่มีออกมาในทางลบได้รายงานถึงความร่วมมือที่จิตอาสา..นักศึกษาและภาคสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ..ผู้ประกอบการที่เข้าสนับสนุนการช่วยดูแลนักท่องเที่ยวทำให้สังคมเห็นว่า..ประชาคมท่องเที่ยวที่มีจนท.รัฐ..เอกชน…จิตอาสา..เชื่อมถึงกันได้..ด้วยการประสาน..ไม่ได้อาศัยข้ออำนาจการสั่งการผู้รับสารที่ผมส่งไปตอบกลับมาด้วยคำสั้นๆกันว่า…”ชื่นใจ”..
เพราะในขณะที่หน่วยอื่นๆเน้นส่งภาพความเสียหาย..ส่งภาพความน่ากลัว..ส่งภาพเครื่องมือเครื่องจักรใหญ่ที่เข้าทำงาน.. แต่ไม่ค่อยมีภาพของความอบอุ่นชื่นใจอย่างที่ทีมสนามกำลังปฏิบัติอยู่นี้ท่านนายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณมายังทุกท่านที่เข้าร่วมปฏิบัติการนี้..นะครับ
ขณะนี้เรามากันได้ครึ่งทางแล้วขอให้ทีมมีโอกาสการสลับเวรผลัดเปลี่ยนกำลังบ้าง..เพื่อจะได้ไม่ล้มป่วยหรือถ้าอยู่ในสนามก็จะทำให้มีโอกาสพลาดได้ถ้าอ่อนเพลียเกินไป
หน้างานฟากอ่าวไทยจากภารกิจการวิ่งไปบอกเตือนหรือวิ่งช่วยสื่อสารกำลังจะผ่านไปลำดับถัดไปคือเรื่องน้ำท่วมดินไหล..ไฟดับ..และการส่งนักท่องเที่ยวออกนอกพื้นที่จนหมดหลังจากนั้นฝ่ายปกครองก็คงจะได้เข้าสู่โหมดสำรวจความเสียหายทางกายภาพ..คลีนอัพ..ซ่อมแซม..และกลับสู่ภาวะปกติ
สภาวะภัยธรรมชาติครั้งนี้..ทำให้ผมเห็นได้ชัดว่าเรามีพลังสร้างสรรค์ที่สำคัญมากไม่ใช่ด้วยกำลังคนมากหรือมีอุปกรณ์ใหญ่โตอะไร แต่เป็นเพราะความสามารถในการเอาใจใส่ผู้คน..และมีความสามารถสื่อสารภาษา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการจัดการความรู้สึกของคนเดินทางท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
ขอบคุณทุกท่าน..ผมและฝ่ายการเมืองในกระทรวงและท่านว่าที่ปลัดโชติขอให้กำลังใจด้วยการเฝ้าติดตามร่วมกัน..และยินดีให้การสนับสนุน
ผู้ปฏิบัติทุกๆคนครับ”
