“อุตตม”ชู5อุตฯพลิกโฉมศก.ประเทศ ชี้เลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบลงทุนอนาคต

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงานสัมมนา Thailand Economic Challenges 2019  ว่า ปี 2562 ยังเป็นปีของโอกาสแห่งการลงทุนที่ยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปี 2561 โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนรองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาถึง ประกอบกับประเทศไทยมีการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้ภาคเอกชนเชื่อมั่นว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้ามากขึ้น แม้ว่าจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้ง แต่การลงทุนภาพรวมนักลงทุนจะมองระยะยาวมากกว่าระยะสั้น

“ภาคอุตสาหกรรมเขาพร้อมที่จะลงทุนทั้งรถยนต์เดิม ที่จะขยายกำลังการผลิตและยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการลงทุนระดับ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อที่จะก้าวไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าที่จะทยอยเข้ามาในปีนี้เพิ่มเติม ส่วนการเลื่อนวันเลือกตั้งคงต้องดูผลระยะสั้น แต่เชื่อว่าระยะยาวไม่มีผลอะไรเพราะการลงทุนต้องมองยาว ซึ่งรัฐบาลนี้วางในเรื่องของอุตสาหกรรมเป้าหมายและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ไว้รองรับอย่างชัดเจนแล้ว”

นายอุตตม กล่าวว่า สำหรับภาคอุตสาหกรรมปีหมูมีความท้าทายในเรื่องของปัจจัยภายนอกอย่างเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนแล้ว การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี(Disruptive ) ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายเช่นกัน แต่ขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาส หากไทยไม่ใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจะเหนื่อย ดังนั้นรัฐบาลจึงทำการปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมด้วยการสนับสนุนไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมหลักได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ 2. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ 3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 4.อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 5.อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้จะนำมาซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมและจะเริ่มทยอยเห็นผลได้ในปีนี้

นายอุตตม กล่าวว่า ทั้ง 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้กับระบบเศรษฐกิจไทยที่จะก้าวไปข้างหน้าได้และยังตอบโจทย์ของการเสริมสร้างจุดแข็งที่ไทยมีอยู่ได้แก่ ภาคการเกษตร แม้ว่าวันนี้พืชเกษตรของไทยจะมีจุดอ่อนหลายด้านแต่ถ้าก้าวไปสู่อุตสาหกรรมชีวภาพก็จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้ นอกจากนี้ยังว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยวที่ต้องเป็นความยั่งยืนจะมองไปในเรื่องท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ เป็นต้น

Advertisement

“เทคโนโลยีจะยิ่งทำให้เกิดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำมากขึ้น หากเราไม่ก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เราต้องรีบปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ดังนั้นกระทรวงอุตสาหกรรมจึงให้ความสำคัญต่อการเตรียมคนให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21ไทยจะต้องลงทุนในเรื่องคนหรือNext Generation Skilled ให้เข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจึงมีนโยบายจะจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต(ITC ) ที่จะบริการให้คนตัวเล็กเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ครบ 77 แห่งในปีนี้ รวมไปถึงการจัดตั้งบริษัทอินโน สเปซไทยแลนด์ เป็นต้น ”นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวว่า ปัจจัยภายนอกประเทศปี2562ภาวะเศรษฐกิจจีนอาจจะชลอตัว ขณะที่สหรัฐมีทิศทางดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ยุโรปเองยังไม่ชัดเจน ดังนั้นเมื่อไทยค้าขายทั่วโลกย่อมต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่เศรษฐกิจไทยเองก็ถือว่าอยู่ในฐานะที่พร้อมโดยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นเองที่ผ่านมา สะท้อนมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจไทยในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า แต่ถึงอย่างไร ก็คงจะวางใจไม่ได้จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

“ไทยเราเองจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรับกับปัจจัยภายนอก และสร้างความสามารถใหม่ที่มีจุดยืนที่มั่นคง จึงเป็นสิ่งที่ท้ายทายให้เราต้องร่วมมือกันในปีหมูนี้เพื่อทำให้ความเหลื่อมล้ำน้อยลงทำให้รายได้กระจายอย่างทั่วถึง”นายอุตตม กล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image