นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นที่เป็นปัจจัยต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมายังคงอยู่ ทั้งการเจรจาสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ที่จะมีการเจรจากันในวันที่ 31 มีนาคม 2562 ซึ่งจากลักษณะการทำงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มักจะเจรจาในช่วงใกล้เส้นตาย หรือช่วงใกล้ถึงวันนัดเจรจา นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประเมินว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยช่วงกลางปี รวมถึงความคืบหน้ากรณีอังกฤษจะออกจากยูโรโซน (เบร็กซิท) และการเลือกตั้งของหลายประเทศในยุโรป จึงอยากให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนในข่วงไตรมาสแรกนี้ เนื่องจากประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นฟื้นไม่มากนัก โดยให้กรอบการลงทุนไตรมาสแรกในระดับ 1,550-1,650 จุด และให้เป้าดัชนีปีนี้ที่ 1,800 จุด ปรับลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1,900 จุด
ส่วนปัจจัยการเมืองภายในประเทศ รอประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ) เลือดตั้ง อย่างไรก็ตามจิตวิทยานักลงทุนไม่มั่นใจมากนัก ยังต้องรอดูนโยบายพรรคการเมือง ทั้งนี้สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญมากที่สุดคือความต่อเนื่องของนโยบายและความต่อเนื่องของรัฐบาล ซึ่งเข้าใจว่ายังคงประเมินได้ยาก อย่างไรก็ตามในช่วงการเลือกตั้ง จะเป็นช่วงที่ปัจจัยภายนอกประเทศคลี่คลาย จึงน่าจะทำให้ดัชนีหุ้นในครึ่งปีหลังปรับตัวขึ้นได้ จึงแนะนำการลงทุนใน 4 กลุ่มเด่น ประกอบด้วย ค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง ธนาคารพาณิชย์และกลุ่มโรงพยาบาล ส่วนกลุ่มที่ต้องระมัดระวังคือ กลุ่มส่งออก จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ทำให้เงินบาทแข็งค่ากระทบส่งออก
ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
