น้ำมันดิบพุ่งปิด46.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ทองคำบวกกว่า10เหรียญ

แฟ้มภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 พ.ค.) ดัชนีปรับลดลงแรง หลังตลาดผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่ประกาศออกมา ซึ่งสวนทางกับราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้น และปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการแล้ว โดยหลังปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 17,711.12 จุด ลบ 217.23 จุด หรือ -1.21% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,760.69 จุด ลบ 49.19 จุด หรือ -1.02% และดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,064.46 จุดลบ19.93 จุด หรือ -0.96%

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์กยังคงปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดราคาส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นอีก 1.57 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดตลาดที่ระดับ 46.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือEIA ออกมาเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วลดลง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาด ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.6% ปิดตลาดที่ระดับ 47.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก( COMEX) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ไปปิดตลาดที่ระดับ 1,275.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image