เร่งทำแผนการค้าปท. ส่งสภาขับเคลื่อนฯ เอกชนติงต้องเคลียร์จุดยืนให้ชัดก่อน

นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเสวนา เรื่อง “ทิศทางอนาคต สนค.” ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ หอการค้าไทย ว่า สนค. กำลังวางระบบเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลเศรษฐกิจการค้า ให้ข้อมูลตลาดหลั่งไหลเข้ามาจากสำนักงานของกระทรวงทั้งในและต่างประเทศ ทำการประมวลและวิเคราะห์ ก่อนเผยแพร่กลับไปสู่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ค้า ให้สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้ และใช้เป็นข้อมูลกำหนดยุทธศาสตร์ แผนงานของรัฐและเอกชนได้ ซึ่งเป็นงานด้านการพัฒนาระบบข้อมูลเศรษฐกิจการค้า

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ด้านการสร้างความเข้มแข็งและโอกาสทางการค้า กำลังร่วมกับสถาบันการศึกษาที่เชี่ยวชาญ ทำแผนสร้างความเข้มแข็ง แผนการนำสินค้าไทยเข้าตลาดอาเซียน และแผนการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับประเทศอาเซียน ผลการศึกษานี้จะนำเสนอกระทรวงพาณิชย์และผลักดันการขับเคลื่อนผ่านสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศต่อไป และจะศึกษาสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งภายในและนอกประเทศให้เห็นถึงโอกาสทางการค้านำไปสู่การสร้างเสถียรภาพ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับบทบาทเน้นการค้าบริการมากขึ้น และการใช้การตลาดนำเศรษฐกิจ ลดปัญหาสินค้าและบริการมีปริมาณเกินความต้องการของตลาด

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สนค. ถือเป็นหน่วยงานใหม่ ซึ่งยังมีประสบการณ์ไม่มากนัก จึงต้องอาศัยความร่วมมือกับเอกชนและวิชาการในการเป็นคลังสมองของกระทรวงพาณิชย์ และวันนี้ (25 ม.ค.) สนค. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (เอ็มโอยู) ทางวิชาการกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา (ไอทีดี) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัยองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจการค้า และพัฒนาบุคลากรด้วย

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากเห็น สนค.เป็นคนที่วางยุทธศาสตร์การค้าภาพรวมของประเทศ มองให้ครบถ้วนทุกด้าน ทั้งด้านวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์เป้าหมาย หน่วยงานรับผิดชอบ งบประมาณ นอกจากประสานงานแล้วต้องติดตามผลการทำงานด้วย และต้องเชื่อมโยงการทำงานของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันขับเคลื่อน อย่างไรก็ตามก่อนกำหนดแผนหรือยุทธศาตร์การค้า สนค. ต้องกำหนดจุดยืนการค้าของประเทศให้ชัดเจนว่าจะยืนอยู่ตำแหน่งของการค้าในเวทีโลก จะมีหุ้นส่วนการค้าจากไหนบ้าง เพราะขณะนี้ไทยมีแผนการค้าการลงทุนมากมาย แต่ยังขาดการกำหนดจุดยืนนี้

นายนพพร กล่าวว่า สนค.ควรจะดูยุทธศาสตร์การค้าแบบครบวงจร ทั้งยุทธศาตร์การค้าภายในประเทศ เพราะเป็นห่วงว่าการค้าของไทยจะไปอยู่ในมือของบริษัทใหญ่เกือบหมด เอสเอ็มอีผลิตสินค้าออกมาแล้วไม่มีช่องทางการค้า และรัฐควรจะมองประโยชน์จากที่พ่อค้าคนกลางทำด้วย มิใช่มองเพียงพ่อค้าคนกลางเป็นพวกกินกำไร เพราะรัฐบาลเคยพูดว่าจะตัดพ่อค้าคนกลางออก รวมถึงต้องมองการค้าชายแดน การค้าต่างประเทศ การท่องเที่ยว และการลงทุนการค้าในต่างประเทศให้เชื่อมโยงและครบวงจรซึ่งจะเสริมให้การค้าของไทยเข้มแข็ง

ADVERTISMENT

นายไพรัช บูรพชัยศรี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในภาวะสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปมาก สนค.ต้องมองไปข้างหน้าตลอดว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปทิศทางไหน เพื่อนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้มาจัดทำเป็นยุทธศาสตร์อย่างไรให้เข้ากับสถานการณ์ โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้ไทยอยู่รอด มีเสถียรภาพ โดยข้อมูลที่ทำจะต้องถูก ต้องไม่บิดเบือน อีกทั้งต้องให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ช อีแบงก์กิ้ง สมาร์ทซิตี้ เป็นต้น อีกทั้งจะต้องพัฒนาระบบลอจิสติกส์ใหเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขยายการค้าและการลงทุน

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สนค. จะต้องทำงานเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่นด้วย และควรมีการกำหนดแผนแม่บทการทำงานที่ชัดเจน