ชาวสวนผลไม้ตะวันออกเฮ แม้แล้งดึงผลผลิตหด แต่ดันราคาพุ่ง

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้ติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตร เพื่อเตรียมวางแผนบริหารจัดการก่อนที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาด พบว่า ภาพรวมผลผลิตผลไม้ในภาคตะวันออก ลดลงเกือบทุกชนิด ดังนี้ เงาะมีประมาณ 175,626 ตัน ลดลง 18.68% มังคุด 110,036 ตัน ลดลง 3.75% ทุเรียน 316,071 ตัน ลดลง 6.38% ยกเว้นลองกอง 56,282 ตัน เพิ่มขึ้น 7.51% โดยผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาด ตั้งแต่พฤษภาคมถึงกรกฎาคม นอกจากนี้ พบว่า ภาพรวมผลผลิตในภาคใต้ ปีนี้จะเพิ่มขึ้น ดังนี้ มังคุด 113,732 ตัน เพิ่มขึ้น 37% ทุเรียน 254,651 ตัน เพิ่มขึ้น 6.32% ลองกอง 84,360 ตัน เพิ่มขึ้น 8.9% แต่เงาะ 74,953 ตัน ลดลง 5% ซึ่งผลผลิตจะทยอยออกช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

“ผลผลิตผลไม้ที่ออกมาน้อยและคุณภาพลดลงในปีนี้ มาจากภัยแล้งและมรสุม แต่ราคาที่เกษตรกรขายได้ถือว่ายังดี ส่วนผู้บริโภคต้องยอมรับกลไกตลาดที่ต้องซื้อผลไม้ในราคาสูงขึ้น กระทรวงก็ต้องปล่อยให้ราคาผลไม้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่มีการเข้าไปแทรกแซง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร การกระจายผลผลิต เชื่อมโยงตลาดปลายทางไปยังจังหวัดต่างๆ ให้ประชาชนเข้าถึง ” น.ส.ชุติมา กล่าว

น.ส.ชุติมา กล่าวต่อว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจอย่างเข้มงวดการนำเข้ามังคุดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ป้องกันการสวมสิทธิ์เป็นมังคุดไทยแล้วเพิ่มราคาขายส่งออกไปประเทศอื่น เพราะที่ผ่านมามีผู้ค้าแอบนำมังคุดจากอินโดนีเซียที่มีราคา 40-50 บาทต่อกก. มาไทยและส่งออกราคา 160-170 บาทต่อกก. ซึ่งคุณภาพต่ำกว่ามังคุดไทยมาก จะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ผลไม้ไทยได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image