นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ทิศทางตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ คาดว่ามีปัจจัยบวกภายในประเทศเข้ามาช่วยให้ภาพรวมตลาดมีความคึกคักมากขึ้นคือ การเปิดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมทั้งการเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ส่วนปัจจัยในต่างประเทศคือ การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเดือนมกราคม ของสหภาพยุโรปหรืออียู และสหรัฐอเมริกาเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเดือนมกราคม และเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของเดือนมกราคมด้วย รวมถึงการเปิดเผยดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่หากขาดดุลการค้าปริมาณมาก จะทำให้เกิดการกดดันในการเจรจาการค้า เพื่อให้ลดการขาดดุลให้น้อยลง
นางสาววิลาสินี กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องกังวลเป็นเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสูงที่สุดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลในด้านดีคือ สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เข้ามาในประเทศไทยได้ แต่ก็ส่งผลกระทบในภาคการส่งออกของไทย เนื่องจากทำให้ราคาสินค้าส่งออกของไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วมีสูงกว่า ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยกดดันตัวเลขการส่งออกของไทย
นางสาววิลาสินี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนแบบ ขึ้นขาย ลงซื้อ สะสมหุ้นที่มีพื้นฐานดี รับการเลือกตั้ง อาทิ หุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มโฆษณา สำหรับหุ้นเด่นที่แนะนำ เป็น PTT ซึ่งราคาเหมาะสมอยู่ที่ 53.60 บาท ถึงแม้ในปี 2561 การเติบโตจะหดตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากการต้องจ่ายภาษีเพื่อโอนธุรกิจให้ PTTOR แต่การเตรียมนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้บริษัทมากขึ้น เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหุ้น PTTOR สูงกว่า PTT ในปัจจุบัน 10-15 เท่า
ส่วนจะมีหุ้นใดที่เด่นและมาแรงบ้าง ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
