ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,651.68 จุด ปรับลดลง 1.43 จุด หรือ 0.09% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1,657.58 จุด และทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,637.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 56,862.15 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,775.14 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 383.73 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 647.42 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 1,511.45 ล้านบาท โดยการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นวันนี้เป็นผลจากประเด็นการเมืองในประเทศที่มีการประกาศตัวว่าที่ผู้ชิงแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยของพรรคการเมือง รวมทั้งการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน เริ่มกลับมาไม่แน่นอนกดดันตลาดอีกครั้ง รวมทั้ง แบงก์ชาติอินเดียที่เซอร์ไพรส์ตลาดลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 6.5% มาอยู่ที่6.25% เป็นการปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยเป็นรายแรกหลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นที่มีปริมาณซื้อขายมากที่สุด ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ผู้ให้บริการ AIS บริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวลดลงเป็นไปตามทิศทางของตลาดต่างประเทศ เนื่องจากตลาดหุ้นในต่างประเทศปรับตัวลดลงทั้งหมด ซึ่งมีส่เหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะสงครามการค้า หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาว่า สหรัฐยังไม่มีการเจรจาร่วมกับจีน ทั้งที่กำลังจะวันสิ้นสุดกำหนดการตกลงทางการค้าร่วมกันแล้ว ประกอบกับการที่ยุโรปปรับลดคาดการณ์จีดีพีลง รวมการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ ทำให้นักลงทุนอาจกลับมามีความกังวลในการลงทุนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ให้กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า อยู่ที่ระดับ 1,630-1,670 จุด พร้อมทั้งแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนให้เจาะหุ้นดูเป็นรายตัว ส่วนหุ้นที่แนะนำในตอนนี้ยังไม่สามารถแนะนำได้ อยากให้นักลงทุนรอติดตามสถานการณ์รายวันไปก่อน
