การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ “ดิจิทัลดิสรัปชั่น” มีผลทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมดิจิทัลต่างๆ ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ โดยมีผลกระทบกับธุรกิจเดิมอย่างรุนแรง ซึ่งทางออกของเรื่องนี้ไม่ใช่การปฏิเสธสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย แต่เป็นการอยู่ร่วมกันโดยหาช่องว่างของโอกาส
บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย อาทิ สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อบุคคล รวมถึงบริการด้านประกันภัยและทะเบียนแก่ลูกค้าปัจจุบัน ทั้งบุคคลทั่วไปรวมถึงนิติบุคคล มีความตื่นตัวในเรื่องนี้อย่างมาก โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะส่งผลต่อการอยู่รอด “รู้ก่อนปรับตัวก่อน” ย่อมดีกว่า
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดใจกล่าวถึงแผนการทรานส์ฟอร์มเพื่อตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยบอกว่าตั้งแต่ปี 2561 ซัมมิท แคปปิตอล ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์การให้บริการด้านสินเชื่อในยุคดิจิทัล โดยเน้นการพัฒนาในระบบโมบิลิตี้ เทคโนโลยี เป็นหลัก อาทิ “ซัมมิท สมาร์ท ซิสเต็ม” หรือการรับสมัครสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น “เครดิต สกอร์ริ่ง ซิสเต็ม” หรือการคัดกรองคุณภาพลูกค้า ทำให้เกิดความแม่นยำในการประมวลผล และวิเคราะห์คุณภาพของลูกค้า โดยสามารถอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เบื้องต้นให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที
และในปีนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโต เช่น บริษัทกำลังจะเปิดตัวระบบ การตรวจสอบการทำงานของพนักงาน แบบรายวัน ที่ถูกพัฒนา และนำมาใช้เพื่อการตรวจสอบคุณภาพการให้บริการของพนักงานอีกขั้น ก่อนทำการอนุมัติสินเชื่อทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในการใช้บริการมากขึ้น ภายในไตรมาสที่ 1/2562 และระบบอื่นๆ เช่น ระบบติดตามทวงถามหนี้ ผ่านแพลตฟอร์มโมบายแอพพลิเคชั่น ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถค้นหาลูกค้าด้วยระบบจีพีเอส และตรวจสอบสถานะของลูกค้าได้รวดเร็ว และระบบการบริหารสินเชื่อ ที่สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดสินเชื่อรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวางแผนเปิดใช้บริการภายในปีงบประมาณ 2562
นอกจากนี้ ซัมมิท แคปปิตอล ยังมีการพัฒนาการบริการ เพื่อรักษาอัตราการเติบโต ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของปี 2561 จะค่อนข้างชะลอตัว และสถิติรถมอเตอร์ไซค์จดทะเบียนใหม่ของกรมการขนส่งทางบกในปี 2561 จะมีจำนวนเพียง 1.79 ล้านคัน หรือลดลงจากปี 2560 อยู่ที่ 1.24% รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมของปี 2562 ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะชะลอตัว ผลพวงจากสถานการณ์สงครามทางการค้า รวมถึงปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการปรับลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีภาคการผลิตโลก แต่ซีอีโอซัมมิทฯ ยังมั่นใจว่า ซัมมิท แคปปิตอล ไปต่อได้ ทั้งจากคาดการณ์ปีนี้เศรษฐกิจน่าจะเติบได้แม้จะเป็นรูปแบบชะลอตัว และซัมมิท แคปปิตอลเองได้รับความไว้ใจจากลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ เห็นได้จากคาดการณ์ตัวเลขของอัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้าง ที่มีอัตราเพิ่มจากปี 2561 อยู่ที่ 27% ขณะที่จำนวนสัญญาใหม่สินเชื่อเช่าซื้อ เพิ่มขึ้นที่ 13% และรายได้รวม เพิ่มขึ้นที่ 30% ถือได้ว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น และยังคงรักษาปริมาณหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) คงเกณฑ์ดี ที่ประมาณ 1% จากการให้บริการสินเชื่อโดยรวมมากกว่า 37,000 ล้านบาท กับลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจกว่า 790,000 รายทั่วประเทศ
ดังนั้น ซัมมิท แคปปิตอลจึงเตรียมพร้อมปรับตัวในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งเร่งขยายพันธมิตรคู่ค้า โดยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และยั่งยืนกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมทุกจังหวัด จากปีก่อนที่มีคู่ค้า 800 ราย หรือ 2,500 โชว์รูม ปัจจุบันมีคู่ค้ามากกว่า 900 ราย หรือ 2,800 โชว์รูมทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% และตั้งเป้าเพิ่มที่จะมีจำนวนคู่ค้าเพิ่มอีก 10% ในปี 2562
มีการพัฒนาบุคลากรกว่า 1,400 คน ทั่วประเทศ ด้วยหลักสูตรอบรม เพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพ และพร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลง โดยภายในไตรมาสที่ 2/2562 ซัมมิท แคปปิตอล วางแผนจะนำระบบการพัฒนามนุษย์ มาใช้กับพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าถึง และครอบคลุมพนักงานได้ทั่วประเทศ โดยพนักงานสามารถเข้ารับการอบรมได้ด้วยตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมสามารถประเมินและตรวจสอบประสิทธิภาพการเข้าอบรมได้อย่างรวดเร็ว และมีแผนเพิ่มพนักงานอีก 9%
ซึ่งแผนทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายตั้งไว้เพื่อไปให้ถึง คือทำให้ ซัมมิท แคปปิตอล ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์!
อัมพวัน อยู่กระทุ่ม
