โชว์รูมประชาชื่น : ‘เอ็มจี’เตรียมบุกตลาดรถกระบะ

นับว่าเป็นค่ายรถมาแรงสำหรับตลาดเมืองไทยอย่างมาก สำหรับค่ายเอ็มจี ประเทศไทย

เป็นการร่วมทุนระหว่างสองยักษ์ใหญ่ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสตรี คอร์ปอเรชั่น (Shanghai Automotive Industry Corporation – SAIC) ถือหุ้นโดยรัฐบาลจีน กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพีของไทย

ร่วมทุนกันตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจี แบรนด์ดังจากอังกฤษ ย่อมาจาก มอริส การาจ ผลิตรถยนต์ขายในประเทศจีน และตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจี พวงมาลัยขวาในประเทศไทย

เอ็มจีจึงกลายแบรนด์รถลูกผสมอังกฤษ-จีน ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์แบบทะลุทะลวง ผลิตรถยนต์ราคาปานกลางแต่ใส่อุปกรณ์ต่างๆ แบบจัดเต็ม

Advertisement

แถมยังลุยตลาดเปิดตัวรถหลากหลายรุ่น จนมาถึงล่าสุด เตรียมเปิดตัวรถที่ได้รับความนิยมสุดในประเทศไทยคือกลุ่มรถกระบะ

Advertisement

เอ็มจีมีแผนเปิดตัวรถกระบะขายในประเทศไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2562 และเล็งจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขาย พร้อมผงาดเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

เอ็มจีดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 4 ปี กำลังก้าวสู่ปีที่ 5 จนถึงปัจจุบันมียอดขายรวมกว่า 50,000 คัน ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ เมื่อดูจากสภาพการแข่งขันในธุรกิจยานยนต์ที่มีความรุนแรง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในตัวรถเอ็มจี

จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ เอ็มจี จะเพิ่มรถยนต์ในกลุ่มกระบะ ถือเป็นรถยนต์หลักของประเทศไทย เป็นการขยายเซ็กเมนต์เพื่อให้ครอบคลุมตลาดรถยนต์ที่มีขายอยู่และพร้อมจะนำไปสู่ตลาดใหม่อย่างรถไฟฟ้าด้วย

หน้าตาของกระบะ เอ็มจี ใหม่ คงจะหนีไม่พ้นคล้ายกับ แม็กซัส ที60 (Maxus T60) ที่มีขายอยู่ในประเทศจีน เพราะเอ็มจีสามารถใช้โมเดลอื่นภายใต้ของบริษัทในเครือเพื่อนำมาขายที่ประเทศไทยภายใต้แบรนด์เอ็มจีได้อย่างไม่ยุ่งยาก

กระบะ T60 ที่เปิดตัวในประเทศออสเตรเลียเมื่อปลายปี 2017 ทำตลาดภายใต้ชื่อ LDV ขุมพลังดีเซล VM ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน VGT ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 1600-2800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ราคาเริ่มต้น 708,000 บาท เมื่อคิดเป็นเงินบาทไทย ขณะที่ประเทศจีนจะมีรุ่นเครื่องยนต์ทางเลือกมากกว่า ทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.4 ลิตร

เป้าหมาย เอ็มจี ในประเทศไทยต้องการจะจัดจำหน่ายรถยนต์ถึง 100,000 คันต่อปี ภายใน 2 ปีนับจากนี้ นั่นหมายความว่า กระบะที่ทางเอ็มจีจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จะต้องเป็นรถเป้าหมายหลักในการทำตลาดของเอ็มจี

เมื่อมาเจอกับคู่แข่งในตลาดรถกระบะทั้งค่ายญี่ปุ่นและอเมริกาที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว งานนี้รับรองได้ว่าตลาดรถกระบะเมืองไทยจะต้องคึกคักขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจได้เลยว่าค่ายเอ็มจีที่มียักษ์ใหญ่ถือหุ้นอยู่คงจะต้องแย่งส่วนแบ่งการตลาดคู่แข่งเดิมมาให้ได้อย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image