เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 14.30 น เวลาท้องถิ่นประเทศไทยมีการออก NOTAM ปิดน่านฟ้าเหนือสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะเดินทางไปปากีสถานและประเทศในแถบยุโรป อาท กรุงเทพฯ-ลอนดอน มอสโก-กรุงเทพฯ แฟรงค์เฟิร์ต-กรุงเทพฯ ปารีส-กรุงเทพฯ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบ มีสายการบินขอยกเลิกเที่ยวบินระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. โดยแบ่งเป็น เที่ยวบินขาเข้า 20 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 20 เที่ยวบิน โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบต้องขอกลับเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 3 เที่ยวบิน และขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งข้อมูลจากสายการบินว่า สามารถกลับมาให้บริการเที่ยวบินตามตารางการบินปกติ ที่เดินทางไปยุโรปภายในวันนี้
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์กล่าว ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยจัดพื้นที่รับรองผู้โดยสารที่ตกค้างบริเวณชั้น 4 ประตู 1 ชั้น 2 ประตู 1 ชั้น 1 ประตู 3 และประตู 4 โดยมีการเสริมเก้าอี้ให้ผู้โดยสารนั่งพักคอย พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้บริการผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ ห้อง cip 5 โดยจัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ คอยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลผู้โดยสารบริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบินไทย รวมทั้งมีประกาศเสียงตามสายแจ้งข้อมูลยกเลิกเที่ยวบินให้ผู้โดยสารทราบ แจกจ่ายน้ำดื่มและอาหารว่างให้กับผู้โดยสาร ตลอดจนจัดสรรหลุมจอดอากาศยานให้สามารถรองรับและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารตกค้างที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ทสภ.ขอความกรุณาผู้โดยสารตรวจสอบตารางการบินก่อนเดินทาง มาสนามบินและกรุณาสอบถามข้อมูลเที่ยวบินได้ที่สายการบินที่ท่านจะเดินทางในเส้นทางที่มีการปิดน่านฟ้าว่าสามารถเดินทางไปยังประเทศปลายทางได้หรือไม่ เพื่อไม่ต้องมาตกค้างที่สนามบินหรือเสียเวลาเดินทางเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง และจนถึงขณะนี้ยังพบว่ายังมีผู้โดยสารตกค้างอยู่อีกประมาณเกือบ 3,000 คน ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประสานโรงแรมให้เข้าพักได้ 1,000 คน อีก 1,000 คนได้เดินกลับไปพักยังสถานที่ต่างๆ และยังคงเหลือผู้โดยสารอีกกว่า 800 คนอยู่รอที่อาคารผู้โดยสาร
