มันนี่ทิป : ปรับตัวลงทุนอสังหาฯ โดย กระปุกหมู

ในปี 2561 ที่ผ่านมา มีมาตรการรัฐออกมาซึ่งจะมีผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะต้องปรับตัวอย่างไร มันนี่ทิปมีคำแนะนำจาก สุนิติ ถนัดวณิชย์ นักวางแผนทางการเงิน ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า ธนาคารกสิกรไทยมาฝากกันค่ะ

ปัจจัยที่จะมีผลต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ มาตรการแอลทีวี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 การให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สัญญาที่ 2 ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะต้องเตรียมเงินดาวน์เพิ่มขึ้น หรืออีกมุมคือ วงเงินสินเชื่อน้อยลงแม้จะมีรายได้เท่าเดิมและมีความสามารถในการชำระหนี้หากเทียบกับก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ในระยะสั้น ผู้ลงทุนกลุ่มซื้อมาขายไปที่มีของอยู่ในมือมีโอกาสมากที่จะขายของได้ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีจำนวนอสังหาริมทรัพย์คงเหลือในตลาดมาก รวมถึงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ได้รีบระบายสินค้าคงเหลือในมือให้ได้มากที่สุด แต่หากผู้ลงทุนกลุ่มซื้อมาขายไปที่ไม่มีของอยู่ในมือ ถือเป็นโอกาสในการซื้อของที่อยากได้ในราคาย่อมเยาได้ในระยะต่อไป

ผู้ลงทุนกลุ่มให้เช่าจะเริ่มมีผลกระทบ เนื่องจากจะมีนักลงทุนกลุ่มซื้อมาขายไปที่ขายไม่ออกต้องจำใจโอนกรรมสิทธิ์เพื่อมาปล่อยเช่า ซึ่งอาจจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการเช่ายังทรงตัวและปรับตัวขึ้นช้า ขณะที่กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2563 จะถือเป็นต้นทุนสำหรับผู้ที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการเสียภาษีจะแบ่งตามประเภทการใช้งาน เนื่องจากถือครองอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป จะมีต้นทุนเพิ่มจากภาษีที่ดินฯ ดังนั้น อัตราผลตอบแทนจากการเช่าจะได้น้อยลงไปอีก

สำหรับผู้ลงทุนที่จะต้องโอนกรรมสิทธิ์หลังมาตรการแอลทีวียังคับใช้ กรณีนักลงทุนที่ผ่อนดาวน์อยู่โครงการอื่นอยู่ โอกาสขอสินเชื่อผ่านจะน้อยลง กรณีที่ขอสินเชื่อผ่าน แต่ได้รับวงเงินน้อยลง ส่วนกรณีที่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน ควรเริ่มต้นจากการติดต่อกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก่อน เพื่อดูขอบเขตความรับผิดชอบว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง นอกจากนี้ควรเตรียมเอกสารหลักฐานในการขอเงินคืนด้วย เช่น สัญญาจะซื้อจะขาย แต่การขอเงินคืนได้เฉพาะเพียงเงินดาวน์ เงินค่าตกแต่งเท่านั้น

Advertisement

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์อาจจะมีข้อจำกัดมากขึ้น ดังนั้น การลงทุนต้องระมัดระวังและมีการวางแผนให้รอบด้านค่ะ

กระปุกหมู

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image