ผู้เขียน | ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร |
---|
สวัสดีครับผู้อ่านทุกคน ด้วยภารกิจส่งเสริมและช่วยผู้ประกอบการ SMEs ของ บสย. โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ประกอบการอาชีพอิสระให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบถือเป็นโจทย์ที่ยากครับ แม้จะมี บสย.ทำหน้าที่เป็น นายประกัน “ค้ำประกันสินเชื่อ” เพราะต้องยอมรับว่า ธนาคารซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อก็ต้องบริหารความเสี่ยงด้วยเช่นกันแต่จะทำอย่างไร…เราต้องทำการบ้านอย่างหนักครับ
จากโครงการ “บสย.รักพี่วิน” ที่ผมเริ่มคิกออฟไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ คือภารกิจแรกของการดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ด้วยเจตนารมณ์ เป็นแรงสนับสนุน สร้างกำลังใจให้กับพี่วิน ในการประกอบอาชีพอย่างถูกกฎหมาย มีความภาคภูมิใจในอาชีพ สามารถเลี้ยงตัว สร้างสุขในครอบครัวได้ และ “เสื้อวิน” ก็เป็นสินทรัพย์ เป็นมรดกธุรกิจ และเป็นหลักประกันชั้นยอด แต่การช่วยพี่วินผู้ประกอบอาชีพอิสระให้ได้รับสินเชื่อนั้นไม่ง่าย !
เราเริ่มสำรวจข้อมูลกลุ่มพี่วิน ซึ่งมีจำนวนทั่วประเทศกว่า 200,000 ราย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 100,000 ราย ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งกระจายในต่างจังหวัด โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 600-900 บาท พฤติกรรมส่วนใหญ่ คือใช้เงินกู้นอกระบบ และติดหนี้นอกระบบ ต้องการเงินทุน แต่ก็เข้าถึงยาก หลายคนมีภาระผ่อนมอเตอร์ไซค์ที่สูง เช่น กู้เงิน 50,000 บาท ในระยะเวลาผ่อน 4 ปี ต้องผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 2,500-2,700 บาท แต่ถ้ากู้ผ่านธนาคาร โดยมี บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ จะทำให้พี่วินผ่อนเฉลี่ยเพียงเดือนละ 1,500 บาท เท่ากับประหยัดเงินได้ถึง 40,000 บาท ในระยะเวลากู้ 4 ปี
ปรากฏการณ์ บสย.รักพี่วิน นำไปสู่ข้อมูลสำคัญที่ทำให้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เหตุใดชีวิต…ติดล้อของพี่วินถึงยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบได้ ข้อมูลพี่วินหลั่งไหลเข้ามาผ่านช่องทาง เฟซบุ๊ก, คอลเซ็นเตอร์ และไลน์ @tcgloveswin ทำให้เรารู้ว่าเราจะช่วยพี่วินต่อไปอย่างไร จึงเป็นที่มาของการเชิญพี่วิน ร่วม Workshop เพื่อเป็นไกด์ไลน์เรื่องการบริหารเงินและการจัดทำบัญชีแบบง่ายๆ นำไปสู่ปรากฏการณ์รอบใหม่ พี่วินจากเขตต่างๆ ยอมสูญเสียรายได้ 1 วัน เพื่อมาเติมความรู้กับวิทยากรผู้ชำนาญการ ผมว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากครับที่พี่วินให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้ และร่วมกิจกรรมที่เราจัดขึ้นอย่างตั้งใจ
เนื้อหาของการทำ Workshop ถูกรวบรวมจากฐานข้อมูลซึ่งประกอบด้วย สภาพปัญหาของพี่วินจากทั่วสารทิศ ที่เข้ามาลงทะเบียนมากกว่า 8,000 ราย ทำให้รู้ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้การขอสินเชื่อของพี่วินไม่ประสบความสำเร็จ ผมว่าเป็นฐานข้อมูลที่ทรงพลังและมีประโยชน์มาก เรารู้ว่า อะไรคือตัวแปรที่ทำให้ไม่ได้รับสินเชื่อ และอะไรคือพฤติกรรมที่พี่วิน ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งเชื่อได้ว่าผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งหลายต่างประสบปัญหาคล้ายๆ กัน คือติดกับดักหนี้นอกระบบ การบริหารการเงินที่ไม่สมดุล เช่น ได้มากใช้มาก ได้น้อยใช้มาก
ผมว่าโจทย์ใหญ่ในการช่วยผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพอิสระให้หลุดพ้นจากกับดักหนี้นอกระบบ คือการสร้างวินัยทางการเงิน การให้ความรู้ที่พวกเขาสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เริ่มจากสิ่งง่ายๆ ใกล้ตัว คือการฝึกหัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เมื่อทำได้ก็จะเห็นตัวเลขรายได้ที่แท้จริง
ในช่วงการทำ Workshop เราให้โจทย์ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้กับพี่วิน ซึ่งได้ข้อสรุปที่น่าทึ่ง แผนลดรายจ่ายของพี่วิน ได้แก่ ลดเหล้า บุหรี่ การพนัน สุรา ไม่ซื้อของสุรุ่ยสุร่าย ไม่เที่ยวบ่อย และเพิ่มรายได้โดยเพิ่มงานรับส่งเอกสาร หาช่องทางการเพิ่มลูกค้า ขยายเวลาการขับรถ หางานพิเศษ ขายของเพิ่ม ทำให้ผมรับรู้ว่า วินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นสิ่งที่พวกเขาตระหนัก และพร้อมที่จะสร้างสังคมให้น่าอยู่ในหมู่พี่วิน
จากการระดมสมองหัวข้อการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ ทำให้เราได้ข้อมูลที่คาดไม่ถึงหลายเรื่อง เช่น การแต่งกายต้องสะอาด ห้ามขาสั้น ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ขับรถเร็ว ไม่ปฏิเสธลูกค้า พูดจาไพเราะ สุภาพเรียบร้อย ไม่โก่งราคา ซื่อสัตย์
ผลจากโครงการนี้ ทำให้ผมมองภาพพี่วินในมุมที่เปลี่ยนไป จากนี้เราจะต่อยอดความช่วยเหลือสู่การเติมทุน เติมความรู้ เติมคุณภาพชีวิต ให้กลุ่มพี่วิน นอกจากนี้ บสย.ยังขยายผลไปสู่กลุ่มอาชีพอิสระอื่นๆ เช่น จับมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในโครงการสานฝัน ปั้นอาชีพ และโครงการความร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อเปิดโอกาสสร้างอาชีพอิสระให้กับกลุ่มช่างในชุมชน ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน
ผมว่ากลุ่มอาชีพอิสระคือรากฐานสำคัญ วันนี้เราเริ่มจากการขับเคลื่อนฐานราก เพื่อไปสู่รากฐานสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ แม้จะเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน…แต่ถ้าเข้าใจและสามารถกะเทาะปมปัญหานั้นได้สำเร็จ และแก้ไขอย่างจริงจัง ย่อมมีโอกาสสำเร็จแน่นอนเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่วิน “ชีวิต…ติดล้อ”
วันนี้ โครงการ บสย.รักพี่วิน ได้ช่วยเติมทุนให้พี่วินได้รับสินเชื่อแล้ว ครับ