สมาคมจีเอสเอ็มชี้5จีเกิดได้ต้องเทคโนโลยีพร้อม-นโยบายดี-ตลาดเหมาะสม แนะราคาประมูล5จีต้องไม่แพงเอื้อผู้ประกอบการลงทุนระยะยาว
เวลา 11.00 น. วันที่ 3 เมษายน นายแองกัส หยู ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยี สมาคมจีเอสเอ็ม เอเชีย สำนักงานฮ่องกง เปิดเผยในงานสัมมนา “5G ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” จัดโดย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ห้องประชุมอาคารมหิตลาธิเบศร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ขณะนี้เริ่มมีบางประเทศเริ่มนำ 5G(5จี) มาใช้แล้ว โดยกลุ่มผู้นำคือเอเชีย ทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ขณะที่ สหรัฐ ยุโรป กำลังตามา โดยการนำ 5จี มาใช้ ควรมี 3 องค์ประกอบสำคัญ คิอ 1.ต้องมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี 2.มีนโยบายที่ดี เพราะต้องครอบคลุมเรื่องคลื่นความถี่(สเปคตรัม) การจัดสรรใบอนุญาตคลื่นความถี่และใบอนุญาต(ไลเซ่น) โดยคลื่นความถี่ที่นิยมนำมาให้บริการ 5จี คือ ย่านความถี่ 3.5 กิกะเฮิรตซ์ ย่านความถี่ 26 กิกะเฮิรตซ์ 28 กิกะเฮิรตซ์ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการควรมีคลื่นความถี่ในการให้บริการหลายย่านเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการ ทั้งนี้ ต้องมีความพร้อมของระบบนิเวศ(อีโคซิสเต็ม) ที่เกี่ยวเนื่อง การแบ่งปันข้อมูล เป็นต้น และ 3.การให้บริการต้องมีสภาพตลาดที่เหมาะสม
“ขณะนี้สมาคมฯ มองว่า 5จี มีความพร้อมแล้ว สมาคมฯ ได้สรุปมาตรฐาน 5จี ทั้งหมดแล้วเสร็จในปีที่ผ่านมา ปีนี้เราคาดหวังว่าเห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ 5จี ที่ก้าวหน้ามากขึ้น
อย่างไรก็ดี ต้องพิจารณาเรื่องราคาประมูลไลเซ่น 5จี เพราะหากมีราคาแพงจะเป็นข้อจำกัดการลงทุนในระยะต่อไปและทำให้การขยายตัว 5จี ช้า ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายมีการปรึกษา โอเปอเรเตอร์ เวนเดอร์ เพื่อให้สอดคล้องกับเชิงพาณิชย์ และแผนธุรกิจ ทั้งนี้ ก่อนประมูลไลเซ่น ผู้กำหนดนโยบายควรมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการลงทุนระยะยาว เพราะถ้าไม่มีการลงทุนก็จะเสียประโยชน์ ซึ่งในฝากผู้บริโภค คาดหวังว่า 5จี จะมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจจะมีการปรับปรุงราคาการให้บริการให้เหมาะสม
” นายหยู กล่าว
นายหยู กล่าวว่า ที่ผ่านมาด้วยเทคโนโลยี 3จี สามารถวิดีโอคอลได้ ต่อมา 4จี มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ออกมาให้บริการ ส่วนภายใต้เทคโนโลยี 5จี ต้องมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยความเร็วในการให้บริการสูง ปริมาณการรับและการส่งข้อมูล (แบนด์วิธ) สูง และต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี 5จี โดย 5จี จะมีผลต่อตลาดแนวตั้ง ทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างมากในอนาคตด้วยความเร็วสูง มีการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) ด้านอินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรืออินเตอร์เร็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที ที่จะเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เป็นต้น เทคโนโลยีเสมือนจริง(เออาร์) และเชื่อว่าจะมีการพัฒนาใหม่ ๆ เพิ่มอีก เป็นเรื่องที่ยังคาดการณ์ไม่ได้อีกมากมาย
