เฉลียงไอเดีย : พสิษฐ์ เธียรนภาพรโชค ชูกลยุทธ์มาร์เก็ตติ้งดีทวีคูณ!!! เสริมแกร่งขนส่งตามสั่ง…ลาล่ามูฟ ประเทศไทย

ไม่แปลกใจที่เห็นพื้นที่ชั้น 8 อาคารสาธรธานี 2 ย่านสาทร จะมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสายเพื่อลงทะเบียนและฝึกอบรมเป็นพนักงานขนส่งที่มีเอกลักษณ์สะดุดตาด้วยเสื้อสีส้ม เนื่องจากพื้นที่บนชั้นนี้เป็นที่ตั้งของ LALAMOVE – ลาล่ามูฟ ธุรกิจบริการขนส่งสินค้าสัญชาติฮ่องกง เน้นบริการขนส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ดิลิเวอรี หรือเรียกง่ายๆ ว่า ขนส่งตามสั่ง

ลาล่ามูฟ ก่อตั้งเมื่อปี 2556 ก่อนจะข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาขยายธุรกิจ ลาล่ามูฟ ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2558 ระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา โดยแพลตฟอร์มของลาล่ามูฟจะเชื่อมโยงให้ผู้ต้องการเรียกใช้บริการมาเจอกันกับพนักงานขับรถขนส่ง สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และจัดส่งถึงที่ภายใน 1 ชั่วโมง และถือว่าเป็นมาร์เก็ตลีดเดอร์ในตลาดธุรกิจบริการขนส่งแบบขนส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ดิลิเวอรีของไทย ในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง ทั้งแกร็บเอ็กซ์เพรส และสกู๊ตตาร์ ดิลิเวอรี ซึ่งตลาดเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากความสะดวกและรวดเร็ว

ปี 2558-2559 ลาล่ามูฟ ประเทศไทย เติบโต 500% มีมูลค่ารวม 121 ล้านบาท ปี 2560 เติบโต 400% มูลค่ารวม 532 ล้านบาท และปี 2561 เติบโต 123% มูลค่าการทำธุรกรรมรวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลาล่ามูฟคือการทำมาร์เก็ตติ้งนั่นเอง

คุณปุ๊ก หรือ พสิษฐ์ เธียรนภาพรโชค มาร์เก็ตติ้งแมนมือหนึ่งของลาล่ามูฟ ประเทศไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ดีกรีปริญญาตรีด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และปริญญาโทด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยบอร์นมัท ประเทศอังกฤษ บอกว่า “การทำมาร์เก็ตติ้งลาล่ามูฟ ที่เป็นธุรกิจสตาร์ตอัพอาจจะไม่หวือหวามากนัก เพราะต้องบริหารงบประมาณที่มีหลัก 10 ล้านบาท ต่างจากบริษัทเอกชนที่อาจจะมีงบให้ทำการตลาดถึง 100 ล้านบาท แต่จะเน้นการทำมาร์เก็ตติ้งที่มีแผนงานที่ชัดเจนและมีความมั่นคง เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเพราะเป็นเรื่องสำคัญขององค์กร”

Advertisement

คุณปุ๊กเล่าว่า ก่อนจะมาร่วมงานกับลาล่ามูฟ ประเทศไทย ได้ประสบการณ์ด้านการตลาดจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในตำแหน่งด้านการสร้างแบรนด์ แต่การที่ได้เข้ามาทำงานร่วมกับลาล่ามูฟ ประเทศไทย เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เปลี่ยนเป็นธุรกิจบริการและเปลี่ยนจากเดิมเน้นการตลาดแบบออฟไลน์เป็นการตลาดแบบออนไลน์ เปลี่ยนจากทำงานในบริษัทเอกชนขนาดใหญ่มาเป็นการทำงานแบบสตาร์ตอัพ เปลี่ยนจากทำมาร์เก็ตติ้งเฉพาะแบรนด์เป็นการวางแผนและดูแลการตลาดทั้งบริษัท ทั้งด้านมาร์เก็ตติ้งกับลูกค้าที่ใช้งานและการรักษาความสัมพันธ์และดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานขับรถด้วย

แม้งานจะเปลี่ยนแต่ก็ยังเป็นสายมาร์เก็ตติ้ง ตัวจุดประกายที่ทำให้คุณปุ๊กสนใจงานมาร์เก็ตติ้ง เจ้าตัวบอกว่า เป็นคนชอบถาม ชอบสังเกต ชอบสงสัย ชอบดูพฤติกรรมของคนทั่วไป ชอบอ่านหนังสือจิตวิทยา ซึ่งมาร์เก็ตติ้งเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับที่สิ่งชอบ “สมัยเด็กค่อนข้างอยู่ในกรอบ แต่การเรียนมาร์เก็ตติ้งทำให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น”

สำหรับปีนี้การทำมาร์เก็ตติ้งของลาล่ามูฟจะสอดคล้องไปกับแผนธุรกิจ ให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องได้แก่ 1.การทำงานร่วมกับพันธมิตรธุรกิจต่างๆ ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้ โดยเตรียมเปิดตัวร่วมกับพันธมิตร คือเคเอฟซี และก่อนหน้านี้ได้เป็นพันธมิตรร่วมกับไลน์แมน ซึ่งเมื่อมีการสั่งอาหารจากไลน์แมนจะซับงานมายังลาล่ามูฟ รวมทั้งเบอเกอร์คิง และกลุ่มธนาคาร รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาพาร์ตเนอร์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการย้ายบ้าน-ย้ายของ หรือการซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นต้น

Advertisement

2.จะขยายจำนวนพนักงานขับรถเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรถบรรทุก รองรับการขนส่งขนาดใหญ่-จำนวนมาก และ 3.การเปิดบริการในหัวเมืองภูมิภาค ที่อยู่ระหว่างการศึกษา อาทิ เชียงราย พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น คาดว่าจะมีการเปิดตัวก่อน 1 แห่งในปีนี้

คุณปุ๊กให้ความเห็นอีกว่า การขยายตัวตลาดโลจิสติกส์และการขนส่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและมาร์เก็ตเพลสต่างๆ น่าจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แน่นอนว่าคู่แข่งทางธุรกิจในตลาดย่อมมี แต่ลาล่ามูฟจะโฟกัสที่การแข่งขันกับตัวเองและพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น “ยึดถือคุณภาพการให้บริการ เพราะมองว่าจะเป็นตัววัดว่าลาล่ามูฟสามารถอยู่ในตลาดที่แข่งขันรุนแรงนี้ได้อย่างไร ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้เลือก”

คุณปุ๊กกล่าวทิ้งท้ายว่า ลาล่ามูฟมีอัตราการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะเชื่อมั่นในบริการของเราว่าบริการดีและถือเป็นจุดแข็งของลาล่ามูฟ โดยปีนี้จะมีการรุกทำมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น ซึ่งการทำมาร์เก็ตติ้งเข้ามาเสริมจะทำให้เห็นการเติบโตของลาล่ามูฟเกิดผลทวีคูณออกมาต่อไป

จุฑามาศ ศรีสวัสดิ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image