ครม.อนุมัติแผนเตรียมพร้อมรับมือ “โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร” ยกเป็นวาระแห่งชาติ หลังระบาดหนักใน 3 ประเทศเอเชีย พร้อมย้ำ เชื้อยังไม่แพร่จากสุกรสู่มนุษย์
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติแผนเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดโรคได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน มีการระบาดทั้งสิ้น 17 ประเทศในหลายภูมิภาคทั่วโลก แบ่งเป็นทวีปยุโรป 10 ประเทศ, ทวีปแอฟริกา 4 ประเทศ และทวีปเอเชีย 3 ประเทศ ซึ่งสำหรับทวีปเอเชีย ประเทศที่มีการระบาด ได้แก่ ประเทศจีน, ประเทศมองโกเลีย และประเทศเวียดนาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 มีการรายงานว่ามีการทำลายสุกรในประเทศจีน จำนวน 950,000 ตัว, ประเทศมองโกเลีย 2,992 ตัว และประเทศเวียดนาม 46,600 ตัว รวมทั้งสิ้น 999,592 ตัว ซึ่งความเสียหายของทั้ง 3 ประเทศคิดเป็นจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาท และขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้
พล.ต.อธิสิทธิ์กล่าวว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรจากปัจจัยหลายประการ เช่น การลักลอบนำผลิตภัณฑ์สุกรติดตัวนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีการระบาดเข้ามาในประเทศไทย, มีการลักลอบนำผลิตภัณฑ์สุกรและซากสุกรผ่านช่องทางนำเข้าชายแดน, มีความเสี่ยงในการปนเปื้อนของไวรัสจากตัวเกษตรกรหรือสัตวแพทย์ที่ไปดูงานในประเทศที่มีการระบาดของโรค, มีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนเชื้อไวรัสที่ยานพาหนะ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ส่งออกสุกรและอาหารสุกรไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีความจำเป็นให้ ครม.อนุมัติแผนนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะมีการระบาดของโรคนี้ในประเทศไทย และเพื่อหาแนวทางฟื้นฟูเกษตรกรและผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร รวมถึงป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรกว่า 100,000 ล้านบาท และเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดเชื้อของโรคระบาดร้ายแรงของภาคปศุสัตว์ได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ
พล.ต.อธิสิทธิ์กล่าวว่า แผนดังกล่าวแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.โครงการบริหารจัดการและขับเคลื่อนมาตรการ โดยจัดให้มีคณะกรรมการอำนวยการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรแห่งชาติ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปลัดกระทรวงเกษตรเป็นกรรมการและเลขานุการ และอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 2.แผนการดำเนินงานและแผนใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินงาน โดยแผนการดำเนินงานแบ่งเป็น 3 ระยะ คือระยะก่อนเผชิญเหตุการระบาด ระยะเผชิญเหตุการระบาด และระยะภายหลังเผชิญเหตุการระบาด ส่วนแผนรายจ่ายงบประมาณในการเฝ้าระวัง ใช้วงเงินทั้งสิ้น 148 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็น ในปีงบประมาณ 2562 จำนวน 53 ล้านบาทเศษ โดยใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในปี 2562 ส่วนในปี 2563 กับ 2564 ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณนั้นๆ
พล.ต.อธิสิทธิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ขอเน้นย้ำไปยังประชาชนและเกษตรกรว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังไม่มีการติดต่อไปสู่คน จึงยังไม่ต้องกังวลว่าจะติดโรคจากสุกร