สมาคมผู้เลี้ยงสุกรมั่นใจแผนรับมืออหิวาต์แอฟริกาทำให้ป้องกันมีประสิทธิภาพ

นายสุรชัย สุทธิธรรม

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยินดีครม.เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกเป็นวาระแห่งชาติเชื่อป้องกันโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้านนายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทยมั่นใจกรณีเลวร้ายที่สุดอาจเกิดโรคในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยตามใกล้ชายแดน แต่หากทุกภาคส่วนร่วมมือคุมระบาดได้แน่นอน

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ทันที่ที่ทราบมติครม. เห็นชอบแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นวาระแห่งชาตินั้น ผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ต่างยินดีเนื่องจากจะทำให้การป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขอขอบคุณนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ผลักดันเรื่องนี้เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากหากใช้กำลังเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์อย่างเดียวเฝ้าระวังโรค จำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่เมื่อยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลสามารถบูรณาการหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอื่นๆ ช่วยกันดูแลตามแผนที่กำหนดไว้

“ถือว่า มติครม. ดังกล่าวออกมาได้ทันสถานการณ์ เนื่องจากอีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก ขณะเดียวกันแรงงานต่างด้าวจะกลับประเทศ แล้วเข้ามาเมืองไทยใหม่หลังสงกรานต์ โอกาสที่จะนำเชื้อก่อโรคเข้ามามีมาก ทั้งการไปอยู่ใกล้จุดเกิดโรคหรือนำผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้ามา ล่าสุดองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) พบจุดเกิดโรคที่กัมพูชาในเมืองรัตนคีรี ติดชายแดนเวียดนาม ทางสมาคมฯ ได้ประสานกับผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ในกัมพูชาให้ควบคุมโรคโดยด่วนที่สุด เนื่องจากไทยส่งออกสุกรไปยังกัมพูชาด้วย เมื่อใช้ยานพาหนะขนส่งเข้าไป โอกาสที่เชื้อโรคจะปนเปื้อนมาจึงเป็นไปได้ ขณะนี้จึงเร่งดำเนินการก่อสร้างจุดฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามด่านชายแดน” นายสุรชัยกล่าว

ด้านนายสัตวแพทย์สุเจตน์ ชื่นชม นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทยกล่าวว่า การที่ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอนั้น สร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายทั้งผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสุกร อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ ตลอดจนเกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์เพราะหากโรค ASF ระบาดเป็นวงกว้างในไทย จะสร้างความเสียหายมูลค่ากว่าแสนล้านบาท

Advertisement

ตามแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรค ASF ยังได้กำหนดมาตรการชดเชยหากต้องทำลายสุกรซึ่งเป็นส่วนสำคัญเนื่องจากจะทำให้เกษตรกรรายย่อยให้ความร่วมมือในการแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดโรคในฟาร์มเพราะมั่นใจได้ว่า จะไม่ขาดทุน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีแผนแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรค ASF ระดับชาติแล้ว กรณีเลวร้ายที่สุดอาจมีเกิดโรคในฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยที่อยู่ใกล้ชายแดน แต่เมื่อทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ จะไม่เกิดการระบาดเป็นวงกว้างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image