นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ตลาดหุ้นจะยังเคลื่อนไหวแกว่งตัว ยังไม่เลือกข้างเป็นบวกหรือเป็นลบอย่างชัดเจน ถึงแม้ปกติหลังจากพ้นช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ โดยธรรมชาติแล้วจะเกิดการซื้อขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกและปัจจัยลบค่อนข้างจะถ่วงดุลในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก จึงแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนคือ ขึ้นขาย ลงซื้อ ตามกรอบเคลื่อนไหวในระดับ 1,600 -1,680 จุด
นายณัฐชาต กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่เป็นแรงประคับประคองดัชนีมีอยู่ 3 ปัจจัย คือ ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง สัญญาณที่ดีของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ(ฟันด์โฟลว์) ที่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เริ่มเห็นการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของ MSCI ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามาในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ค่อนข้างมาก ส่วนปัจจัยลบคือ การปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทย ยังไม่ได้ถูกสนับสนุนจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)มากเท่าที่ควร ซึ่งหากดูประมาณการกำไรในตลาดก็จะพบว่า นักวิเคราะห์มีการปรับลดคาดการณ์แทบทุกวัน ทั้งที่ดัชนีมีการปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ดัชนีอาจจะเข้าสู่โหมดเปราะบางมากขึ้น
“รวมถึงเรื่องการเมืองไทย ที่ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ยังไม่เห็นหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจน ซึ่งผลการเลือกตั้งก็ค่อนข้างสูสีกัน ทำให้ตราบใดก็ตามที่รัฐบาลใหม่ยังไม่สามารถจัดตั้งได้ ก็ยังคงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในเรื่องของโครงการลงทุนต่างๆของภาครัฐ ที่อาจยังไม่สามารถเริ่มต้นได้ ทำให้ฟันด์โฟลว์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอตัวลง โดยหากรัฐบาลยังไม่สามารถจัดตั้งได้หรือจัดตั้งมาแล้วมีคะแนนเสียงไม่มากพอ ก็จะทำให้ปัจจัยนี้กลายเป็นปัจจัยคาราคาซัง ที่ทำให้ดัชนีหุ้นไทยเดินหน้าต่อไปอย่างมีนัยยะสำคัญไม่ได้”นายณัฐชาตกล่าว
ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
