ที่ผ่านมา มีการใช้ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ในเรื่องสุขภาพเพื่อประเมินอาการของโรคต่างๆ เช่น ปี 2560 มีการใช้เอไอ ในการสังเกตสัญญาณเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งมีความแม่นยำถึง 84% หรือการใช้เอไอ เพื่อทำนายการโจมตีของออทิสติกในทารกวัย 6 เดือน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง อีกทั้ง มีการตรวจจับสัญญาณของโรคเบาหวานผ่านการวิเคราะห์จากการสแกนจอประสาทตา และยังมีการใช้ข้อมูลที่ได้จากการสแกนจอประสาทตาทำนายความน่าจะเป็นของผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ อาจจะแปลกอยู่สักหน่อย ที่นักวิทยาศาสตร์ได้เทรนระบบเอไอ ประเมินความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร หรือคนที่อายุสั้น ก่อนเกณฑ์เฉลี่ย โดยใช้ข้อมูลสุขภาพนับทศวรรษระหว่างปี 2549-2559 จากคนในสหราชอาณาจักรกว่าครึ่งล้าน
อีกทั้ง ยังมีการคาดการณ์การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรโดยใช้เอไอ ในการวิจัยครั้งนี้ใช้โมเดลเปรียบเทียบกันโดยจะตัดสินจากปัจจัย เช่น อายุ เพศ ประวัติการสูบบุหรี่ และการวินิจฉัยโรคมะเร็งก่อนหน้านั้นเป็นตัวแปรอันดับต้นๆ ในการประเมินความเป็นไปได้ในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งนักวิจัยพบว่าแต่ละโมเดลต้องดูปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่แตกต่างด้วย
ทั้งเรื่องชาติพันธุ์และกิจกรรมที่เกี่ยวกับร่างกาย อีกทั้ง ให้ความสำคัญกับเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย รอบเอว ปริมาณผักผลไม้ที่บริโภค รวมถึงสีผิว และปัจจัยสำคัญต้นๆ คือ ความเสี่ยงด้านอาชีพและมลพิษทางอากาศ การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ยาบางชนิด
และเมื่อคำนวณตัวเลขทั้งหมด พบว่า คาดการณ์ได้แม่นยำสุดถึง 76% ของกลุ่มตัวอย่างที่เสียชีวิตในช่วงเวลาที่ศึกษา ทั้งนี้ ผู้วิจัยระบุว่า การศึกษาครั้งนี้ สามารถช่วยในการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และการพัฒนาในอนาคตสำหรับการใช้เอไอในเรื่องสุขภาพ
“เอไอ” แม่นเว่อร์อย่างกับตาเห็นอย่างนี้ อาชีพหมอดู หมอเดา เตรียมตัวตกงานได้เลย
นายมะดัน