ในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต โชว์ 2019 เมื่อประมาณกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เลกซัสรถยนต์หรูของค่ายได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการยานยนต์หรูอีกครั้ง ด้วยการเผยโฉม ออล นิว เลกซัส แอลเอ็ม (All NEW Lexus LM) ครั้งแรกกับรถ มินิแวน ของค่ายเลกซัส แอลเอ็ม ได้รับการต่อยอดมาจาก โตโยต้า อัลพาร์ด และเวลไฟร์ โดยนำมาปรับปรุงใหม่ เพิ่มความหรูหราตามแบบฉบับ เลกซัส ทั้งภายนอกและภายใน
มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ในรหัส แอลเอ็ม 350 (LM 350) และแอลเอ็ม 300เอช หรือไฮบริด (LM 300h)
ภายนอกกระจังหน้าเป็นเอกลักษณ์แบบ สปินเดิล กริล (Spindle Grille) ตามเอกลักษณ์ของเลกซัส ไฟหน้าเป็นแบบแอลอีดี มาพร้อมกับ เดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (DRL) และโปรเจ็กเตอร์ (Projector) จัดวางตามสไตล์เดิม ส่วนไฟท้ายเป็นแบบแอลอีดี เช่นกัน เชื่อมต่อหากันเต็มฝาท้าย เป็น ดีไซน์ แลงเควจ (Design Language) แบบใหม่
ด้านข้างตกแต่งคิ้วประตูโครเมียม จากขอบประตูคู่หน้า ยาวไปจนถึงขอบบนของหน้าต่างคู่หลัง สุดไปจนถึงด้านข้างของสปอยเลอร์หลังคา ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีระหว่าง สีดำ และ สีขาว ไวท์ เพิร์ล คริสตัล ไชน์ (White Pearl Crystal Shine)
ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวิถีใหม่อย่าง กิน-ซิน-โบกู (Gin-Sin-Boku) หรือหมึกสีเงิน ใช้แรงบันดาลใจมาจากศิลปกรรมขั้นสูงของญี่ปุ่น ให้ความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ วัสดุใช้ตกแต่งมีทั้ง หนัง โลหะ และการเดินด้ายด้วยฝีมือขั้นสูง เบาะมีให้เลือกทั้งแบบ 4 และ 7 ที่นั่ง
ทั้งรุ่น 4 และ 7 ที่นั่ง จะให้เบาะแถว 2 แบบแยกมาให้ สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีจอแสดงผลขนาด 26 นิ้ว ตู้เย็น ที่เก็บร่ม และแผงควบคุมระบบต่างๆ ด้วยการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเบาะ ความบันเทิง และระบบปรับอากาศแยกตอน
สำหรับรุ่น 4 ที่นั่ง มีการกั้นห้องโดยสารกับผู้ขับขี่เพื่อความเป็นส่วนตัว
มีเครื่องยนต์ให้เลือกด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ รุ่น LM 300h เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AR-FXE 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี. กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400-4,800 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า 143 แรงม้า 270 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง 68 แรงม้า 139 นิวตันเมตร กำลังสูงสุดทั้งระบบเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวม 197 แรงม้า แบตเตอรี่ นิกเกิล-ไฮโดรเจน (Nickel-hydrogen) 6.5 Ah ส่งกำลังผ่านเกียร์อี-ซีวีที (E-CVT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ อี-โฟร์ (E-Four)
และรุ่น LM 350 เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2GR-FKS V6 สูบ D-4S ขนาด 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.0 x 83.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตร ที่ 4,600-4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ไดเรคต์ ชิฟท์ (Direct Shift) มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ
ช่วงล่างนำเทคโนโลยีโช้กอัพแบบ สวิง วาล์ว (Swing Valve) เหมือนกับเลกซัส อีเอส (Lexus ES)
คาดว่าเมื่อเปิดตัวออกมาเป็นทางการขนาดนี้ ลูกค้าคนไทยคงมีโอกาสเป็นเจ้าของได้แน่นอน
แต่เชื่อว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะสไตล์โตโยต้า ประเทศไทย ไม่ใช่องค์กรที่เคลื่อนไหวเร็ว และอัลพาร์ด และเวลไฟร์ ยังขายดี คงยังไม่อยากเอา แอลเอ็ม มาขายแข่ง ยกเว้นว่ามาเพื่อขยายฐานลูกค้ากระเป๋าหนักในประเทศไทย
