การบินไทย แจ้งผลประกอบการปี 61 ขาดทุนอ่วม 1.1 หมื่นล้าน

การบินไทย ประชุมผู้ถือหุ้น แจ้งผลประกอบการปี’61 ขาดทุนอ่วม 1.1 หมื่นล้าน

วันนี้ (วันที่ 26 เมษายน 2562) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์ หอประชุมกองทัพอากาศ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานในการประชุม และมีคณะกรรมการ ฝ่ายบริหาร และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เข้าร่วมการประชุม มีวาระสำคัญ ดังนี้

1. เรื่องรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2561

ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2561 กลุ่มบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ของกลุ่มบริษัทฯ (บริษัทฯ และบริษัทย่อย) มีรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวน 199,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้กลุ่มบริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 11,569 ล้านบาท

Advertisement

ในปี 2561 บริษัท การบินไทยฯ ได้รับมอบเครื่องบินใหม่ จำนวน 5 ลำ และปลดระวางเครื่องบินแบบโบอิ้ง B737-400จำนวน 2 ลำ ทำให้ฝูงบินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 มีจำนวน 103 ลำ สูงกว่า ณ สิ้นปีก่อน 3 ลำ โดยมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 12.0 ชั่วโมง เท่ากับปีก่อน มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 2.9% ปริมาณขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 1.0% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 77.6% ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งเฉลี่ยที่79.2% โดยมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 24.3 ล้านคน ลดลงจากปีก่อน 1.0% ในปีนี้ บริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงทางบัญชี ได้แก่ การเปลี่ยนประมาณการมูลค่าคงเหลือของเครื่องบินและเครื่องยนต์อะไหล่ จากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 6 ของมูลค่าต้นทุนเริ่มแรกทำให้ค่าเสื่อมราคาของเครื่องบินและเครื่องยนต์อะไหล่ในปี 2561 เพิ่มขึ้น จำนวน 3,129 ล้านบาท และการทบทวนระยะเวลาการรับรู้บัตรโดยสารที่จำหน่ายแล้วแต่ยังไม่ได้ใช้บริการ จากเดิมรับรู้เป็นรายได้เมื่อบัตรโดยสารมีอายุเกินกว่า 24 เดือน เป็น 15 เดือน นับจากวันที่ออกบัตรโดยสาร ทำให้รายได้ค่าโดยสารสำหรับปี 2561 เพิ่มขึ้น 1,028 ล้านบาท

ในปี 2561 การแข่งขันอุตสาหกรรมการบินยังคงรุนแรง ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมจำนวน 199,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,554 ล้านบาท (3.9%) ทั้งจากรายได้ค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน รายได้ค่าระวางขนส่งไปรษณียภัณฑ์ รายได้จากการบริการอื่นๆ และรายได้อื่นๆ แต่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 208,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,468 ล้านบาท (10.3%) เป็นผลจากค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 9,881 ล้านบาท (19.7%) จากราคาน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 30.1% อย่างไรก็ตาม มีการบริหารความเสี่ยงราคาน้ำมันได้ดีขึ้นกว่าปีก่อน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมน้ำมันสูงขึ้น 9,802 ล้านบาท (7.3%) สาเหตุหลักเกิดจากค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน ค่าเช่าเครื่องบิน และค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลง 215 ล้านบาท (4.7%) จากการบริหารเงินสดและการปรับโครงสร้างทางการเงินต่อเนื่องจากปีก่อนส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำปี 2561 ขาดทุนจากการดำเนินงาน 9,058 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไร 2,856 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบิน จำนวน 3,459 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 911 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการตีมูลค่าหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 11,569 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 11,625 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 5.33 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 0.97 บาท

Advertisement

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจปี 2561 เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทฯ หลุดพ้นจากปัญหาการขาดทุน และสามารถทำกำไรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยในปี 2562 นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างรายได้อย่างเร่งรัดโดยจะดำเนินการในหลายมิติ ได้แก่ การปรับปรุงฝูงบินให้ทันสมัยและสามารถแข่งขันได้ การปรับปรุงการบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การบริการภาคพื้นจนถึงการบริการบนเครื่องบิน (Ground to Sky) การบริหารจัดการด้านการขายและการตลาด โดยเฉพาะด้าน Digital Marketing การหารายได้เสริม การเพิ่มขีดความสามารถและการขยายธุรกิจ เช่น โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงศักยภาพด้านบุคลากร และการจัดโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสมกับธุรกิจยิ่งขึ้น

2. เรื่องการงดจ่ายเงินปันผล

ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีผลกำไรจากการดำเนินงานในรอบปี 2561 และตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ กำหนดให้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิก่อนหักผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากงบการเงินรวม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคต

3. เรื่องการเลือกตั้งกรรมการบริษัทฯ ใหม่

การประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 นี้ มีกรรมการออกตามวาระ ดังนี้
1. นายดิสทัต โหตระกิตย์
2. นายรัฐพล ภักดีภูมิ
3. นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย
4. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม
5. นายคณิศ แสงสุพรรณ (ลาออกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2560)

ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติแต่งตั้งกรรมการบริษัทฯ รายเดิมต่ออีกวาระหนึ่ง จำนวน 3 ท่าน ดังนี้
1. นายดิสทัต โหตระกิตย์
2. นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย
3. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม

ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติให้แต่งตั้งกรรมการบริษัทฯ แทนกรรมการบริษัทฯ ที่ออกตามวาระ จำนวน 2 ท่าน ดังนี้
1. นายดนุชา พิชยนันท์ เป็นกรรมการแทน นายคณิศ แสงสุพรรณ
2. นางสาวนิตยา ดิเรกสถาพร เป็นกรรมการแทน นายรัฐพล ภักดีภูมิ

4. เรื่องพิจารณาอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองที่เกิดจากส่วนล้ำมูลค่าหุ้นเพื่อชดเชยผลการขาดทุนสะสมของบริษัทฯ

ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ มีมติอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมาย จำนวน 2,691,275,568 บาท และสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้น จำนวน 25,545,316,308 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ ในวันนี้ มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมการประชุมทั้งด้วยตนเอง และโดยการมอบฉันทะ จำนวน 897 ราย นับเป็นจำนวนหุ้นได้ 1,633,390,536 หุ้น

การประชุมในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น มีผู้ถือหุ้นร่วมซักถามทั้งในวาระและประเด็นที่เป็นข้อสงสัย โดยคณะกรรมการบริษัทฯ และฝ่ายบริหารได้ร่วมกันชี้แจงตอบข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ จนถึงเวลา 19.17 น. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัทฯ ในฐานะประธานในการประชุม ได้กล่าวปิดประชุม และกล่าวขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่สละเวลามาร่วมประชุม พร้อมทั้งขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image