ผู้ประกอบการ ยันยังไม่ปรับขึ้นราคาข้าวถุง ยังมีสต็อกเก่าค้าง 2-3 เดือน

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี ผู้ผลิตข้าวถุงมาบุญครอง เปิดเผยถึงกรณีต้นทุนข้าวเปลือกสำหรับผลิตข้าวบรรจุงเพิ่มขึ้นว่า แม้ว่าขณะนี้ต้นทุนการผลิตข้าวสารบรรจุถุง ขนาด 5 กิโลกรัม (กก.) ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถุงละ 5-5.70 บาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ผลิตข้าวถุงคือข้าวเปลือกเจ้าที่ใช้ผลิตข้าวสารขาว 5% ปรับขึ้นมาประมาณ 10% มา 2 สัปดาห์แล้ว หรือราคาข้าวเปลือกเจ้าเพิ่มเป็น 14,000 บาท ต่อตันจาก 12,500 บาทต่อตัน แต่ผู้ประกอบการข้าวถุงจะยังไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกในเวลานี้เพราะยังมีข้าวเปลือกสต็อกเก่าอยู่ ซึ่งใช้ได้อีกประมาณ 2-3 เดือนจากนี้ โดยนำราคาต้นทุนมาถัวเฉลี่ยกับต้นทุนปัจจุบัน

นายสมเกียรติ กล่าวว่าผู้ประกอบการข้าวถุงแต่ละรายสามารถแบกรับต้นทุนและสต็อกข้าวได้แตกต่างกัน ต้องติดตามดูผลผลิตข้าวเปลือกที่จะออกสู่ตลาดในฤดูกาลใหม่ราวต้นเดือนกันยายนนี้มีมากน้อยเพียงใด หากปริมาณข้าวเปลือกไม่เพียงพอต่อการผลิตข้าวถุง และราคาต้นทุนยังขยับขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าผู้ประกอบการบางรายอาจจะพิจารณาปรับขึ้นราคาข้าวถุงบ้าง

“เวลานี้ยังเร็วไปที่จะบอกว่าข้าวถุงขายปลีกจะปรับขึ้นราคาหรือไม่ เมื่อใด หรือต้องปรับขึ้นเท่าไหร่ เพราะราคาต้นทุนเพิ่งขยับขึ้นมา 2 สัปดาห์ ต้องรอดูปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด การแข่งขันของตลาดข้าวถุง ซึ่งปัจจุบันแต่ละแบรนด์แข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น จัดโปรโมชั่นแถมสินค้าอื่นๆ เมื่อซื้อข้าวถุง เช่น แถมน้ำดื่ม น้ำปลา เพื่อรักษาลูกค้าทำให้ข้าวถุงปรับขึ้นราคายาก หากวัตถุดิบข้าวเปลือกไม่เพียงพอต่ออุตสาหกรรมข้าวถุงในช่วงที่รอผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ในเดือนกันยายนออกมา แล้วรัฐบาลมีการระบายข้าวสารในสต็อกออกมา เชื่อว่าจะช่วยได้บางส่วนเท่านั้น เพราะข้าวจากสต็อกรัฐบาลเก็บไว้เป็นเวลานาน คุณภาพการหุงต้มจะลดลง อาจจะนำข้าวมาใช้ได้บางส่วนเท่านั้นที่จะใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งของข้าวถุง” นายสมเกียรติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image