จอดป้ายประชาชื่น : ดราม่าภาษีดอกเบี้ยฝาก

ดราม่าทันที หลังจากกรมสรรพากรออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 344) ให้ผู้ที่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทุกคนต้องไปแจ้งยินยอมต่อทุกธนาคารที่ตนเองมีบัญชีเงินฝากให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปให้กรมสรรพากรเพื่อรวบรวมดอกเบี้ย หากรวมกันทุกบัญชีมากกว่า 20,000 บาท จะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว แต่หากน้อยกว่า 20,000 บาท     ไม่ต้องเสียภาษี กรณีนี้กระทบคนจำนวนมาก เพราะธนาคารกำหนดเวลาให้ไปเซ็นยินยอมถึงวันที่ 15 พฤษภาคมเท่านั้น หากไม่เซ็นยินยอมจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% จากดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ว่าจะได้ดอกเบี้ยเท่าไร

ประกาศออกมากระชั้นชิดและระยะเวลาลงทะเบียนที่สั้นมาก แต่กระทบกับคนที่มีเงินฝากเกือบทั้งประเทศ   ในที่สุดกรมสรรพากรจึงมีการแก้ไขประกาศเพื่ออำนวยความสะดวก โดยทุกธนาคารจะส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากไปให้สรรพากรรวบรวม ไม่ต้องไปเซ็นยินยอมใดๆ แต่หากไม่อยากให้ส่งข้อมูลต้องไปแจ้งความประสงค์กับธนาคาร วันที่ 7-14 พฤษภาคมนี้ เพื่อคำนวณดอกเบี้ยก่อนส่งสรรพากรวันที่ 20 พฤษภาคม แต่กรณีนี้ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จากดอกเบี้ยทุกบาทที่เกิดขึ้นลดผลกระทบกับคนหมู่มากไปได้

เดิมเรื่องนี้ หากฝากออมทรัพย์หลายธนาคารและมีดอกเบี้ยรวมกันทุกบัญชีทุกธนาคารเกินกว่า 20,000 บาท ผู้ฝากมีหน้าที่แจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยให้ดำเนินการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นการยากที่ผู้ฝากจะมีการรวบรวมข้อมูลเองและแจ้งต่อธนาคาร หากส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์จะสะดวกมากขึ้น และยังตัดวงจรกรณีมีพนักงานธนาคารบางแห่งให้ลูกค้าซอยเงินฝากออกเป็นบัญชีย่อยๆ เพื่อให้ดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาทต่อบัญชีจะได้ไม่เสียภาษี เพราะธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่ายเฉพาะบัญชีที่เกิน 20,000 บาทขึ้นไป ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ฝากเงินคนอื่นที่กระทำถูกต้อง และเสียภาษีตามกฎหมาย

สำหรับผู้มีเงินฝากรวมกันถึง 4 ล้านบาท หากไม่อยากเสียภาษีส่วนนี้จริง อาจแบ่งเงินกระจายการลงทุนไปในรูปแบบอื่น เช่น พันธบัตร กองทุน ที่ได้ผลตอบแทนมากขึ้นก็ได้

Advertisement

เรื่องภาษีเป็นเรื่องเซ็นซิทีฟ จึงเป็นบทเรียนให้ภาครัฐต้องพิจารณาหลายมุม จะได้ไม่ต้องแก้ไขประกาศไปมาจนในที่สุดอาจจะเกิดความสับสน!

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image