การเมืองฉุดหุ้นร่วง 12.57 จุด “นักวิเคราะห์” ชี้นักลงทุนเทขายลดเสี่ยงหลังรู้ผล “จุรินทร์” นั่งหน.ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานดัชนีหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่า ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,621.27 จุด ปรับลดลง 12.57 จุด หรือ 0.77% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1,638.94 จุด และทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,621.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 49,847.24 ล้านบาท ซึ่งพบว่าภาคเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 1,633.84 จุด ปรับลดลง 6.29 จุด หรือ 0.38% เปิดภาคบ่ายที่ระดับ 1,632.70 จุด ปรับลดลง 1.14 จุด หรือ 0.07% โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 623.75 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,163.71 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 847.69 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,387.65 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยในประเทศและปัจจัยต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน (เทรดวอร์) ที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลก ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องการเมือง ที่สร้างความกลัวให้กับนักลงทุนมากขึ้น เนื่องจากมีการเปิดตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้มีผลงานมากนัก ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงด้ายการเทขายหุ้นสะสมทิ้ง ประกอบกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงท้ายพบว่า ตัวเลขผลประกอบการที่รายงานออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้สร้างความกังวลต่อเนื่องกัน

“ในขณะนี้ความเชื่อมั่นของประเทศไทยยังไม่มี ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ยังไม่ไหลเข้ามา และมีการขายเพื่อลดความเสี่ยงด้วยซ้ำ ซึ่งมองว่าหากปัจจัยต่างประเทศยังไม่ผ่อนคลายเท่าที่ควร เรื่องการเมืองของประเทศไทยยังไม่ชัดเจนมากนัก ประกอบกับผลประกอบการที่รายงานออกมายังไม่ดี ก็คงเป็นเรื่องยากที่ฟันด์โฟลว์จะไหลเข้ามา จึงแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนคือให้เลือกสะสมหุ้นเป็นรายตัว ที่มีความปลอดภัยและไม่ถูกรบกวนจากเทรดวอร์ได้ง่าย อาทิ หุ้นกลุ่มโรงแรม รถไฟฟ้า และโรงพยาบาล”นายวิจิตรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image