เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาพืชผลผลิตล้นตลาดต้องให้อำนาจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งการส่งเสริมการผลิตที่ตรงกับความต้องการตลาดและมีอำนาจประสานการจำหน่ายผลผลิตด้วย ยกตัวอย่างโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ที่ผ่านประสบความสำเร็จเพราะกระทรวงเกษตรฯได้ประสานทั้งกระทรวงพาณิชย์และสมาคมผู้ประกอบการอาหารสัตว์เพื่อขอทราบข้อมูลความต้องการข้าวโพดอาหารสัตว์ก่อนแล้วให้สหกรณ์การเกษตรแต่ละแห่งทำความตกลงหรือเอ็มโอยูล่วงหน้ากับชาวนาว่าจะมาซื้อข้าวโพดแล้วจึงให้ชาวนาลงมือปลูก
ผลปรากฎว่ามีชาวนาเข้าร่วมโครงการ78,000ครอบครัวคิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดแทนการทำนาปรับ800,000ไร่ขณะนี้เก็บเกี่ยวข้าวโพดขายได้เกือบสิ้นสุดโครงการแล้วชาวนาได้กำไรไร่ละ 3,000บาท
นายกฤษฎา ยืนยันว่าเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลชุดปัจจุบันนี้สามารถคืนกำไรให้ชาวนาจากการเกษตรได้มากที่สุดถึง24,000ล้านบาทในขณะที่ผ่านมารัฐบาลก่อนๆต้องเอาเงินงบประมาณรัฐมาช่วยเกษตรกรเพื่อพยุงราคาสินค้าเกษตรหลายแสนล้านบาทเป็นปัญหาการคลังของประเทศถึงปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎาได้เขียนอธิบายการปรับโครงสร้างหน่วยงานและภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใหม่(คลิกอ่าน) ของทั้งหน่วยงานและข้าราชการ เพื่อให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำไปใช้ในการปฎิบัติงานด้วย
