ประกาศแล้ว! กม.สลากใหม่กรุยทางบอร์ดออกสลากรูปแบบใหม่ได้ เพิ่มโทษขายเกินราคาปรับไม่เกินหมื่น

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.62 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ออกประกาศ “พระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ให้ไว้ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
“ผู้อานวยการ” หมายความว่า ผู้อานวยการสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

“พนักงาน” หมายความว่า พนักงานของสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
“ลูกจ้าง” หมายความว่า ลูกจ้างของสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้”
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 7 ให้สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งสานักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดใกล้เคียง”
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 11 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล” ประกอบด้วย
(1) ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ
(2) ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนสานักงบประมาณ ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
และผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
(3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนสามคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ
และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กฎหมาย การตลาด หรือสังคม ด้านละไม่เกินหนึ่งคน
เป็นกรรมการ
ให้ผู้อานวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ”
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 11/1มาตรา 11/2 และมาตรา 11/3 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517

Advertisement

“มาตรา 11/1 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 11 (3) มีวาระการดำรงตาแหน่งคราวละสามปี โดยอาจได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งอีกได้ แต่จะดารงตาแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 11 (3) พ้นจากตำแหน่งตามวาระแต่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ แต่ทั้งนี้ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ไม่เกินเก้าสิบวัน

มาตรา 11/2 ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 11(3) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระและยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตาแหน่งที่ว่าง ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้และในการนี้ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่
เมื่อตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 11 (3) ว่างลงก่อนครบวาระ ให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง เว้นแต่วาระของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน จะไม่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ได้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนได้รับแต่งตั้งแทน

มาตรา 11/3 การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุมให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ
ปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในการวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาดกรรมการที่มีส่วนได้เสียในเรื่องที่มีการพิจารณาจะเข้าร่วมประชุมหรือออกเสียงลงคะแนนในเรื่องดังกล่าวมิได้”

Advertisement

มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (7/1) และ (7/2) ของมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517
“(7/1) การออกประกาศกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาก่อนออกประกาศ รวมทั้งต้องให้ผู้ด้อยโอกาสและคนพิการเข้าถึงการเป็นตัวแทนจาหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย

(7/2) การกำหนดอัตราเงินที่จัดสรรเป็นรายได้แผ่นดินตามมาตรา 22 (2) และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานตามมาตรา 22 (3)”
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความใน (1) ของมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนเงินเดือนพนักงานและลูกจ้าง หรือลงโทษพนักงานและลูกจ้างทางวินัยตลอดจนให้พนักงานและลูกจ้างออกจากตำแหน่ง แต่ถ้าพนักงานและลูกจ้างที่ว่านั้น มีตำแหน่งตั้งแต่ชั้นหัวหน้าสำนักหรือเทียบเท่าที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่นขึ้นไป ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะกรรมการ”

มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 22 เงินที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด ให้จัดสรรดังนี้
(1) ร้อยละหกสิบเป็นเงินรางวัล
(2) ไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบสามเป็นรายได้แผ่นดิน
(3) ไม่เกินกว่าร้อยละสิบเจ็ดเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย”
มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 26 เงินที่จัดสรรไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลตามมาตรา 22 (1) หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล จะนาเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปก็ได้แต่ไม่เกินหนึ่งงวด โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ เงินที่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไป ถ้าไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลดังกล่าว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

เงินที่จัดสรรไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลตามมาตรา 22 (1) ถ้าไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลและไม่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไปตามวรรคหนึ่ง ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเงินที่จัดสรรไว้เพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลตามมาตรา 22 (1) ที่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล แต่ผู้นั้นไม่มาขอรับเงินรางวัลภายในกาหนดอายุความตามมาตรา 37 ให้นาส่งเป็นรายได้แผ่นดิน”

มาตรา11 ให้ยกเลิกความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา28 ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือธนาคารอื่นตามที่กระทรวงการคลังกำหนด”
มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในมาตรา 30 มาตรา 31 มาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา ๓๔34 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 30 ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดให้มีระบบบัญชีที่เหมาะสมกับกิจการเพื่อจัดทำบัญชีแสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริง ตามมาตรฐานการบัญชีและหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปตามประเภทของเงินนั้น ๆ และจัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดี
มาตรา 31ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทำงบการเงินประจำปี ส่งผู้สอบบัญชีภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี

มาตรา 32 ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชี ทำการตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจสอบสำหรับเงินทุกประเภทของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

มาตรา 33 ผู้สอบบัญชีมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบสรรพสมุดบัญชีและเอกสารหลักฐานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อการนี้ให้มีอำนาจสอบถามประธานกรรมการ กรรมการ ผู้อำนวยการ พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

มาตรา 34 ผู้สอบบัญชีต้องทำรายงานการสอบบัญชีเสนอต่อคณะกรรมการภายในหนึ่งร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เพื่อคณะกรรมการเสนอต่อรัฐมนตรี”
มาตรา 13ให้ยกเลิกความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการ การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“มาตรา 39 ผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ และยังไม่ได้ออกรางวัล ในราคาเกินกว่าที่กาหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท”

มาตรา 14ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา39/1 และมาตรา 39/2 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517

“มาตรา 39/1 ผู้ใดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในสถานศึกษา ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา39/2ผู้ใดขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท”
มาตรา 15 ให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจาหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช2558 ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิก คงปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลตามมาตรา11 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติสิ้นสุดลงตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

มาตรา16 ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 ที่ยังคงเหลืออยู่และไม่มีภาระผูกพันในวันที่คำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิกส่งเป็นรายได้แผ่นดินให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่คำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิก

มาตรา 17 ในระหว่างที่ยังมิได้มีการออกประกาศกาหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตามมาตรา 13(7/1) แห่งพระราชบัญญัติสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีอานาจออกสลากกินแบ่งรัฐบาลตามประเภทและรูปแบบที่ดำเนินการอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับต่อไปได้

มาตรา 18 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับ
องค์ประกอบ การดำรงตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล อำนาจหน้าที่ของ
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การบัญชีของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และการแก้ไข การจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษสาชำหรับความผิดในกรณีการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล และกำหนดเพิ่มเติมความผิดในกรณีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในสถานศึกษาและการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลแก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ากว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ เพื่อให้การดำเนินกิจการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image