โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจรถยนต์สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรมากว่า 20 ปีแล้ว โดยมีกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม ภายใต้บริการที่มีชื่อว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอร์ปอเรท โซลูชั่นส์ (Mercedes-Benz Corporate Solutions) นำเสนอบริการด้านรถยนต์ ทีมบริการหลังการขาย โปรแกรมสนับสนุนการทำธุรกิจของลูกค้าแต่ละองค์กร จัดงาน เดอะ เทสต์ ออฟ เลกาซี่ (The Taste of Legacy) ร่วมเป็นพันธมิตรกับ 6 โรงแรมชั้นนำระดับห้าดาว ได้แก่ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โรงแรม สุโขทัยกรุงเทพ และโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ ส่งมอบยนตรกรรมหรู เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส350 ดี เอ็กซ์คลูซีฟ (S 350 d Exclusive) กว่า 40 คัน เพื่อบริการให้กับลูกค้า
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งมอบครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ด้วยมูลค่ารถยนต์รวมกว่า 300 ล้านบาท หลากหลายโรงแรมพันธมิตร นับเป็นลูกค้าธุรกิจกลุ่มองค์กรยุคแรกเริ่มเลือกใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อดูแลลูกค้ามายาวนานกว่า 10 ปี ตั้งแต่รุ่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 320 ซีดีไอ (S 320 CDI) สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของแต่ละโรงแรมที่มีต่อเมอร์เซเดส-เบนซ์
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ คอร์ปอเรท โซลูชั่นส์ เป็นโปรแกรมสนับสนุนการทำธุรกิจของหน่วยงาน องค์กร บริษัท และผู้บริหาร ด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่กลุ่มคอมแพกต์ คาร์ (Compact Car) ลักชัวรี่ คาร์ (Contemporary Luxury) เอสยูวี (SUV) หรือแม้กระทั่งลิมูซีนหรูอย่างเอส-คลาส และเมอร์เซเดส-มายบัค เอส-คลาส ตอบสนองความต้องการการทำธุรกิจของลูกค้า ผ่านคำแนะนำของที่ปรึกษากลุ่มลูกค้าองค์กร บริการหลังการขายที่ดี รับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม่เสียค่าบริการและไม่จำกัดระยะทาง ลูกค้าสามารถเลือกโปรแกรมหรือประกันซ่อมบำรุงเพิ่มได้ เพื่อการคุ้มครองมากขึ้น และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สตาร์ แอสซิสต์ (Star Assist) จากศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ S 350 d Exclusive ห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ เอ็นเนอร์ไจซิ่ง คอมฟอร์ท คอนโทรล (ENERGIZING Comfort Control) เทคโนโลยีควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร พรีเมียม แอมเบียนท์ ไลท์ (Premium Ambient Light) ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลัง 6 แบบ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ที่นั่งตอนหลังที่มาพร้อมกับ Chauffeur Seat Package ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าผู้โดยสารด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น จากการปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังฝั่งซ้ายเพิ่มขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดียอันล้ำสมัย ด้วยฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ แอปเปิล คาร์ เพลย์ และ แอนดรอยด์ ออโต ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ระบบเสียงรอบทิศทาง เบอร์มีสเตอร์ เซอร์ราวด์ ซาวด์ ซิสเต็ม (Burmester surround sound system) ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง
