“บลจ.วี” ลุยหุ้นต่างประเทศ เปิดขาย IPO WE-GTECH8M

นางสาวงามนภา ธวัชโชคทวี กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (“บลจ.วี”) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นต่างประเทศในระยะนี้ยังมีความน่าสนใจในการลงทุน ด้วยระดับราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตสูง จากความต้องการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และความต้องการใช้ส่วนบุคคล บริษัท จึงเล็งเห็นว่าเป็นจังหวะที่มีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งนี้ในวันที่ 18-20 มิ.ย.นี้ จะมีการเปิดขายกองทุนเปิด วี โกลบอล เทคโนโลยี 8M (WE-GTECH8M) เพื่อตอบรับความต้องการจากนักลงทุนที่หาโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีจากการจัดพอร์ตลงทุน (Asset Allocation) ด้วยการกระจายลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งเราหวังว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนต่างประเทศ 3 กองทุน ที่ บลจ.ได้เปิดเสนอขายไปในช่วงก่อนหน้านี้

นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ บลจ. วี กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในกระแสโลก (Mega Trend) ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงต้องปรับตัวใช้เทคโนโลยีเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น เกิดสภาวะการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีดิจิทัลสู่รูปแบบธุรกิจและอุตสาหกรรมขึ้นมาใหม่ สะท้อนได้จากการใช้งานของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์ การโอนเงินบนสมาร์ทโฟน ทำให้การขยายตัวสูงขึ้นของ Cloud Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนธุรกิจและมีการตอบสนองการใช้งานมากขึ้น และการเติบโตของกลุ่ม Cyber Security เพื่อสร้างความปลอดภัยของข้อมูลในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเหล่านี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาวนิตยา กล่าวว่า ส่วนความยืดเยื้อของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศหลักในด้านการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันภาวะการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว การขายทำกำไรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันระดับราคาของหุ้นเทคโนโลยีบางกลุ่มอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มการทำกำไรของธุรกิจ มองว่า หุ้นเทคโนโลยีบางกลุ่มเป็นธุรกิจที่มีเสถียรภาพในการเติบโตตามเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คน ซึ่งหากเรามองในเรื่องการเติบโตจากปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่ผ่านช่วงความคาดหวังการเติบโตของกำไรเกินความเป็นจริง และเป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรอย่างสม่ำเสมอและมีกระแสเงินสดต่อเนื่อง ในปัจจุบันที่ระดับราคาที่ปรับตัวลงมาถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว

“โดย กองทุน WE-GTECH8M ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการ 8% ใน 8 เดือน โดยกองทุนจะเลิกกองทุนตามเป้าหมายเมื่อมีมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ผ่านระดับ 10.83 บาทต่อหน่วย และ NAV ที่รับซื้อคืนขั้นต่ำ 10.80 บาทต่อหน่วย โดยบริษัทจะดำเนินการสับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด วี มันนี่ มาร์เก็ต ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันถัดจากวันคำนวณราคารับซื้อคืนหน่วยอัตโนมัติ โดยมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท”นางสาวนิตยากล่าว

Advertisement

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.วี กล่าวว่า หุ้นเทคโนโลยีที่น่าลงทุนควรเป็นหุ้นที่ธุรกิจเติบโตไปกับกระแสโลกอย่างต่อเนื่อง สามารถทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ กองทุน WE-GTECH8M จึงจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Active Allocation โดยเน้นการคัดเลือกหุ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ผ่านกองทุน Polar Capital Global Technology Fund ที่บริหารโดย Polar Capital Asset Management ซึ่งเป็น บลจ. ที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีและมีผลการดำเนินงานที่ดีสม่ำเสมอ และจัดพอร์ตบางส่วนลงทุนในกองทุน ETF ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจในช่วงนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (“บลจ.วี”) โทรศัพท์ 02-648-1555 และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 02-648-1111

นายอิศรากล่าวว่า การกำหนดมูลค่าหน่วยลงทุนที่เป็นเป้าหมายเป็นเพียงเหตุให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายเท่านั้น การกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เป็นการประมาณการหรือรับประกันว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามมูลค่าที่กำหนดเมื่อมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากภาวะตลาดหรือภาวะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ กองทุนรวมอาจไม่ดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งหากกรณีที่ไม่เกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน ภายใน 8 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอีกครั้งในวันทำการแรกถัดจากวันครบกำหนดระยะเวลา 8 เดือน นับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม

ทั้งนี้สำหรับเงื่อนไขของการลงทุนนั้น ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 8 เดือนได้ กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก เนื่องจากกองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศและมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image