‘สงครามการค้า’ทำบาทแข็ง กระเทือนส่งออก พ.ค.-5.79% ฉุด 5 เดือน-2.7% สัญญาณติดลบอีกหลายเดือน

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพฤษภาคม 2562 ยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และติดลบร้อยละ 5.79 มีมูลค่าการส่งออกที่ 21,017 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าติดลบ ร้อยละ 0.64 มีมูลค่า 20,836 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเกินดุลอยู่ที่ 181 ล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุการส่งออกติดลบเดือนพฤษภาคม ผลมาจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน กระทบส่งออกหายไป 135 ล้านเหรียญสหรัฐ จนกระทบต่อเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ ผลกระทบเบร็กซิท และค่าเงินแข็ง จึงกระทบต่อส่งออกลดลง ทั้งกลุ่มสินค้าและตลาดส่งออก เช่น อาเซียนสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ราคาน้ำมันมีการขยายตัวติดลบ ทั้งเม็ดพลาสติก,เคมีภัณฑ์,น้ำมันสำเร็จรูป

แต่อย่างไรก็ตาม จากการพยายามผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่และการกระจายความเสี่ยง ทำให้การส่งออกของไทยในระดับปัจจุบันถือว่า ดีกว่าหลายประเทศโดยสินค้าเกษตรและอาหารของไทย ยังคงเป็นที่ต้องการของคู่ค้า

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า การส่งออกช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ติดลบร้อยละ 2.7 มีมูลค่า 10,1561 ล้านเหรียญสหรัฐ การนำเข้าติดลบ ร้อยละ 0.99 มีมูลค่า 100,830 ล้านเหรียญสหรัฐ และเกินดุลที่ 731 ล้านเหรียญสหรัฐ

Advertisement

ทั้งนี้ปัจจัยลบที่มีผลต่อการส่งออก นอกจากสงครามการค้าแล้ว คงต้องจับตาสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออก ซึ่งค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข่งค่าได้อีก ผู้ส่งออกจำเป็นที่จะต้องทำประกันความเสี่ยง ในขณะที่ภาครัฐควรมีมาตรการเพิ่มแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการเพื่อทำให้การส่งออกยังสามารถรักษาเสถียรภาพของประเทศไว้

“การส่งออกจะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกต่อเดือนได้ในช่วงปลายไตรมาส 3 และ 4 และการส่งออกในช่วงที่เหลือปีนี้ต้องทำให้ได้เกินเดือนละ 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image