เรียกได้ว่าเป็นการเขย่าตลาดรถยนต์เมืองไทยครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว เอ็มจี แซดเอส อีวี (MG ZS EV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเอ็มจีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
แม้ว่าการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายเอ็มจีที่มียักษ์ใหญ่อย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี และเซี่ยงไฮ้ ออโต้ ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์จากเมืองจีน ร่วมทุนกันปลุกปั้นเอ็มจี เพียงเวลาไม่กี่ปีสามารถเพิ่มประชากรเอ็มจีในเมืองไทยได้อย่างรวดเร็ว
แถมยังมีทีเด็ดล่าสุด อย่างการเปิดตัวรถยนต์เอ็มจีไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ตามหลังค่ายนิสสันที่เป็นตัวรถยนต์นิสสัน ลีฟ ไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ในราคาคันละ 1.99 ล้านบาท แต่สำหรับค่ายเอ็มจีเปิดตัวในราคา 1,190,000 บาท
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เอ็มจีนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมสร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในทุกมิติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของเอสเอไอซี คอร์ปอเรชั่น (เซี่ยงไฮ้ ออโต้) บริษัทแม่ของเอ็มจี กำหนดแนวของทางการพัฒนารถยนต์ภายใต้ 4 แกนหลัก คือ มีความอัจฉริยะในการเชื่อมต่อ (Intelligent Connectivity) ใช้พลังงานทางเลือก (Electrification) เป็นทรัพยากรใช้ร่วมกันได้ (Sharing) และมีความเป็นสากล (Globalization) การแนะนำ เอ็มจี แซดเอส อีวี รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเอ็มจี เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือก
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอสยูวีตามแบบฉบับของเอ็มจี ผสมผสานระหว่างความสวยงาม ความเป็นสากล และความทันสมัยในสไตล์รถยุโรปเข้าไว้ด้วยกัน ภายนอกโดดเด่นด้วยสีตัวถังแบบพิเศษ สีฟ้า โคเปนเฮเก้น บลู (Copenhagen Blue) กระจังหน้าทันสมัยพร้อมการติดตั้งจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้า ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำ พร้อมการตกแต่งคอนโซลหน้า ด้วยวัสดุนุ่มแบบซอฟต์ ทัช (Soft touch) พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานในรถเชื่อมกับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลมาพร้อมระบบกรองอากาศกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ห้องโดยสารหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา
(Panoramic Sunroof)
เอ็มจี แซดเอส อีวี เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% ให้ทั้งสมรรถนะ อัตราเร่งรวดเร็วและต่อเนื่อง พร้อมการขับขี่ที่เงียบ ปราศจากมลพิษและเสียงรบกวนจาก มอเตอร์ไฟฟ้า แบบเพอร์มาเนนท์ แมกเนท ซิงโครนัส มอเตอร์ (Permanent Magnet Synchronous Motor) พัฒนาให้ส่งกำลังได้ดี ช่วยระบายความร้อนได้ดี พร้อมแบตเตอรี่ แบบลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh ที่ผ่านการรับรองและทดสอบตามมาตรฐานสากล วิ่งผ่านน้ำสูงได้กว่า 40 เซนติเมตร ในขณะที่แบตเตอรี่ยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังมีระบบการปกป้องแบตเตอรี่แบบ 360 องศา และระบบการจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะแวดล้อมอุณหภูมิต่ำและสูง และระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 3.1 วินาที และให้ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือมาตรฐานการทดสอบความประหยัดน้ำมันและมลพิษของยุโรป ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ ปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ในการขับขี่ของแต่ละคน ประกอบด้วย โหมดการขับขี่แบบ อีโค (Eco) เพื่อการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น แบบนอร์มอล (Normal) สำหรับการขับขี่ทั่วไปและ แบบสปอร์ต (Sport) เพื่อการขับขี่เร้าใจ
ระบบความปลอดภัย แอดวานซ์ ซิงโครไนซ์ โปรเทคชั่น ซิสเต็ม (Advanced Synchronized Protection System) ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems ได้แก่
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
มีการติดตั้งไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ อิมโมบิไลเซอร์ (mmobilizer) ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด รวมถึงกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์
รองรับการชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จไฟแบบธรรมดา (Normal Charge) ผ่าน เอ็มจี โฮม ชาร์จเจอร์ (MG Home Charger) ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% ในระยะเวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง และการชาร์จไฟแบบเร็วหรือควิกชาร์จ (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ (Public Charging Station) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% ในระยะเวลาเพียง 30 นาที
นอกจากนี้ เอ็มจี ยังได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ติดตั้งสถานีชาร์จ อีเอ เอนี่แวร์ (EA anywhere) ให้กับโชว์รูมของเอ็มจี ปัจจุบันมีอยู่ถึง 107 แห่งทั่วประเทศ และกำลังจะขยายเป็น 130 แห่ง ภายในปีนี้
อีกทั้งยังได้ลงนามความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ติดตั้งที่ชาร์จ เพื่อลดข้อจำกัดและคลายความกังวลของผู้บริโภคในการจะตัดสินใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ระบบอีซี่ คอนเนคต์ (Easy Connect) เป็นเทคโนโลยีระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ ไอ-สมาร์ท (i-SMART) ใน 3 แกนหลัก คือ การสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย หรือสมาร์ท คอมมานด์ (SMART Command) ด้านการเชื่อมต่อผ่านหน้าจอภายในรถ หรือ สมาร์ท คอนเนคต์ (SMART Connect) และด้านการตรวจเช็กรถจากมือถือ หรือสมาร์ท เช็ก (SMART Check) ผู้ขับขี่สามารถเช็กระดับพลังงานคงเหลือของแบตเตอรี่ การเช็กสถานะและระยะเวลาของการชาร์จแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ การค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าใกล้เคียง หรือสถานีชาร์จที่โชว์รูมทั่วประเทศ รวมทั้งการสั่งการ เอ็มจี โฮม ชาร์จเจอร์ (MG Home Charger) สำหรับการชาร์จไฟที่บ้านได้ด้วย
เอ็มจี แซดเอส อีวี เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ช่วยให้ผู้ขับประหยัดเงินค่าพลังงานกว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้ ด้วยระบบขับเคลื่อนที่มาจากแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่น้อยลง การดูแลรักษาเป็นเรื่องง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
“เอ็มจี แซดเอส อีวี เปิดรับจองอย่างเป็นทางการพร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูม เอ็มจีทั่วประเทศ และจะเปิดตัวต่อสาธารณชนในงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2019 ระหว่างวันที่ 26 ถึง 30 มิถุนายนนี้ ที่ไบเทคบางนา สำหรับรถทดลองขับจะพร้อมที่โชว์รูมเอ็มจี
ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม จะส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ในช่วงเวลาเดียวกัน และจะจัดจัดกิจกรรมแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายผ่านกิจกรรมโรดโชว์ทั่วประเทศ” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ถือเป็นการรุกคืบครั้งสำคัญของค่ายเอ็มจี จากนี้คงต้องมาดูเสียงตอบรับและคำถาม รวมทั้งความคาดหวังที่ตามมาของคนไทยอีกมาก ถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
