นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่กระทรวงการคลังมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการพีพีพี) ครั้งที่1/2559 โดยตนเป็นประธานว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการแก้ไขกฎกระทรวงในการเพิ่มมูลค่าโครงการที่ต้องผ่านกระบวนการตามขั้นตอนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 โดยเพิ่มมูลค่าโครงการ จากเดิมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เป็นโครงการที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการพีพีพี ส่วนโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ได้มอบอำนาจให้แต่ละกระทรวงสามารถพิจารณาโครงการพีพีพีภายในหน่วยงานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการพีพีพีอีกต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหา ลดขั้นตอน และเพิ่มความคล่องตัวของการดำเนินโครงการขนาดเล็ก หรือโครงการที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ให้สามารถเข้าสู่กระบวนการพีพีพีได้รวดเร็วยิ่งขึ้นนั้น คาดว่าจะประกาศบังคับใช้ได้ในเร็วๆ นี้
นายอภิศักดิ์กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของโครงการพีพีพีระยะเร่งด่วน (พีพีพี ฟาสต์แทร็ก) ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ยังสามารถเดินหน้าโครงการได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้ คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการให้คณะกรรมการพีพีพีพิจารณาได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนมีนาคมนี้ เริ่มกระบวนการจัดหาภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งน่าจะลงทุนได้จริงในช่วงปลายปี ตามกรอบเวลา ส่วนการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ คาดว่าจะเกิดความล่าช้าจากกรอบเวลาเดิมประมาณ 1-2 เดือน เนื่องจากกระทรวงคมนาคมขอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทบทวนและปรับปรุงรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเพื่อเสนอให้กระทรวงพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อเสนอคณะกรรมการพีพีพีในเดือนเมษายน และเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบเดือนพฤษภาคม ตามขั้นตอนต่อไป
