คลังชงครม.สัปดาห์หน้า ใส่ข้อตกลงคุณธรรมในกม.จัดซื้อจัดจ้าง “อภิศักดิ์”ยันอีบิดดิ้งข้อมูลไม่รั่ว ที่ยุติธรรมสอบเป็นช่วงทดลองใช้ระบบ

ที่มาภาพ:mof.go.th

ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่องข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งข้อตกลงคุณธรรมเป็นหนึ่งในแนวทางที่นำมาใช้ โดยกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆ นี้

“การทำให้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใส ช่วยทำให้ประเทศชาติประหยัดงบประมาณได้ เห็นได้จากการนำระบบอีบิดดิ้งมาใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 จนถึงล่าสุด ช่วยประหยัดงบประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท เพราะการประมูลต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากกว่า 15% บางโครงการต่ำได้ถึง 30% ในปีหนึ่งๆ รัฐบาลมีงบประมาณลงทุนในการจัดซื้อจัดจ้างและงานก่อสร้างต่างๆ ราว 5 แสนล้านบาท ถ้าสามารถลดการรั่วไหลได้เพียง 10% ก็สามารถประหยัดงบประมาณได้ราว 5 หมื่นล้านบาท งบที่ประหยัดได้สามารถนำไปพัฒนาประเทศในส่วนอื่นได้”

ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมกำลังตรวจสอบระบบอีบิดดิ้ง นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการประสานขอข้อมูลมายังกระทรวงการคลัง เท่าที่ทราบข้อมูลอีบิดดิ้งมีข้อมูลรั่วเกิดในช่วงแรกๆ ที่ทดลองนำระบบมาใช้ แต่ขณะนี้มีการป้องกันไว้อย่างดี และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นยังไม่พบการรั่วไหลข้อมูลอีก ซึ่งรัฐบาลพยายามเชื่อมระบบข้อมูลต่างๆ เพื่อลดการรั่วไหลของการจัดเก็บภาษี ทั้งการจัดทำบัญชีเดียวของกรมสรรพากรที่จะเชื่อมกับระบบอีเพย์เมนท์ มีการประเมินคร่าวๆ ว่าจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยกรมสรรพากรกำลังเดินหน้าเรื่องบัญชีเดียวและอีเพย์เมนท์ แต่ยังมีปัญหาในส่วนของกรมศุลกากรที่ยังพบการแจ้งสำแดงสินค้านำเข้าราคาต่ำ บิดเบือนแหล่งผลิต รวมถึงแจ้งจำนวนนำเข้าสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง จึงกำชับให้กรมศุลกากรเข้มงวดให้มากขึ้น

“การจ่ายภาษีไม่ถูกต้องถือเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น ประเทศไม่ได้เงิน และเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่เสียภาษีถูกต้อง แม้ว่าการจัดอันดับการคอร์รัปชั่นของไทยในปี 2558 จะดีขึ้น อยู่ลำดับที่ 76 จากปีก่อนหน้าอยู่ลำดับที่ 85 จากทั้งหมดกว่า 170 ประเทศ แต่ยังไม่น่าพอใจ น่าจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้อันดับดีขึ้นกว่านี้”

Advertisement

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า คาดว่าสัปดาห์หน้า ครม.จะพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และหลังจากนั้นในอีก 3 เดือนจะผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยจะมีเวลาให้ปรับตัวอีก 180 วัน โดยในปีงบประมาณ 2558-2559 มีโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นำไปสู่ข้อตกลงคุณธรรมจำนวน 26 โครงการ จาก 24 หน่วยงาน คิดเป็นมูลค่า 55,933 ล้านบาท

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ข้อตกลงคุณธรรม เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ในระดับสากลมีการนำมาใช้กว่า 20 ประเทศ และดำเนินการมาอย่างยาวนานจนประสบความสำเร็จ และเป็นมาตรฐานระดับโลก ลักษณะของข้อตกลงคุณธรรมเป็นข้อตกลงที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้ลงนามร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่างหน่วยงานของรัฐ เอกชน และ ผู้สังเกตการณ์เพื่อให้คำมั่นว่าจะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอย่างสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้

นายประมนต์กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันเอกชน (กกร.) เป็นผู้สรรหาและคัดเลือกผู้สังเกตการณ์ จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง มีความเป็นกลางและไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการจัดซื้อจัดจ้าง มีเวลาสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ ปัจจุบัน ได้คัดเลือกผู้สังเกตการณ์อยู่ในบัญชีรายชื่อแล้วประมาณ 100 คน และตั้งเป้าหมายว่าจะรับเพิ่มอีก 100 คน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image