อสังหาแนวราบโตสวนตลาด ครึ่งปีแรกขยายตัว 15% แต่คอนโดครึ่งปีแรกขายได้แค่แสนล.คาดทั้งปีเหลือ 2.2 แสนล.

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 นี้ คาดว่าจะยังชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวน ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่า ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย และคาดหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคลายเกณฑ์การคุมสินเชื่อหรือแอลทีวีลง อย่างไรก็ตามในครึ่งปีแรกปีนี้พบว่าในส่วนของตลาดแนวราบคือบ่านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์นั้นยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 15% แต่คอนโดมิเนียมนั้นภาพรวมยอดขายลดลง 10-15% โดยครึ่งปีแรกมูลค่ายอดขายอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท ขณะที่มีดารเปิดใหม่ 5,000 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเปิดที่ 1.6 หมื่นยูนิต และคาดว่าครึ่งปีหลังน่าจะขายได้อีก 1.2 แสนล้านบาท หรือภาพรวมของตลาดคอนโดทั้งปีน่าจะขายได้ 2.2 แสนล้านบาท จากปีที่ป่านมาขายได้ถึง 2.9 แสนล้านบาท

นายพีระพงศ์ กลาวว่า ในปี 2562 นี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทได้เดินหน้าการให้บริการหลังการขายที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท ดีดับเบิลยูจี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารงานขายอสังหาริมทรัพย์ครบวงจากประเทศสิงคโปร์ ให้เข้ามาเป็นตัวแทนขายโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ต่างๆของบริษัทในตลาดต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น ดูไบ เป็นต้น

“ที่ผ่านมา ออริจิ้น ได้เดินหน้าให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร โดยได้จัดตั้งบริษ้ท พรีโม โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจในการให้บริการด้านบริหารงานหลังการขาย ทั้งนี้ภายหลังจากได้ร่วมมือกับ ดีดับเบิลยูจี ซึ่งจะเข้ามาช่วยดูแลงานบริการหลังการขาย 3 ด้าน ให้แก่ลูกค้าชาวต่างชาติทั้งหมด ได้แก่ บริการรับฝากขายต่อและปล่อยเช่า บริการตกแต่งห้องพัก และ บริการดูแลด้านความสะอาดภายในห้องพักอีกด้วย”นายพีระพงศ์ กล่าว

Advertisement

นายพีระพงศ์ กล่าวว่าสำหรับแบรนด์คอนโดมิเนียมหลักที่จะนำไปเสนอขายยังตลาดต่างประเทศ มี 2 แบรนด์ คือ แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น และ แบรนด์ ดิ ออริจิ้น โดยจะเป็นการนำเสนอจุดขายของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ มากกว่าการนำเสนอจุดขายเป็นรายโครงการเพื่อสร้างโอกาสของแบรนด์ให้ลูกค้าชาวต่างชาติได้รู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้นในฐานะอินเตอร์แบรนด์เพื่อเป็นการผลักให้บริษัทมีอัตราการเติบโตได้อย่างยั่งยืน และจะสามารถผลักดันยอดขายในปี 2562 นี้เป็นตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ที่ 28,000 ล้านบาท โดยยอดขายดังกล่าวจะเป็นยอดขายลูกค้าต่างชาติประมาณ 20% หรือ 5,600 ล้านบาท และจากนี้ไปจะรักษาสัดส่วนการขายใก้ต่างชาติอยู่ในสัดส่วน 20% ต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image