ดิจิเทรนด์ฟอร์เวิร์ด : ระหองระแหง

เป็นเรื่อง “ขิงก็ราข่าก็แรง” เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เตรียมที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศส เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลฝรั่งเศสที่เตรียมเก็บภาษีรายได้ในอัตรา 3% ของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ ทั้งกูเกิล และเฟซบุ๊ก หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวหาว่าทั้ง 2 บริษัทพยายามที่จะหลีกเลี่ยงภาษี โดยใช้บริษัทที่ตั้งในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่าเก็บรายได้จากในฝรั่งเศส เช่น ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก

รัฐบาลฝรั่งเศสคาดว่า หากกฎหมายการเก็บภาษีดิจิทัล ด้วยอัตราภาษี 3% ออกมา จะทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสมีรายได้ต่อปีประมาณ 400 ล้านยูโร โดยกฎหมายนี้จะเก็บภาษีบริษัทที่มีรายได้อย่างน้อย 25 ล้านยูโร ในประเทศฝรั่งเศส และรัฐบาลฝรั่งเศสได้กล่าวว่า บริษัทไอทีไหนๆ ก็ไม่สามารถหนีภาษีเหล่านี้ไปได้ โดยคาดว่ามี 30 บริษัททั่วโลกที่เข้าเกณฑ์นี้ทันที เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี สเปน สหราชอาณาจักร เป็นต้น

หลังจากฝรั่งเศสได้กล่าวถึงเรื่องนี้ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไอทีของสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลสหรัฐเตรียมตอบโต้ในเรื่องนี้ แต่ได้ขอร้องไม่ให้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้แต่อย่างใด โดยขอให้มีการเจรจาระหว่างกันมากกว่า

โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนทางการค้าของสหรัฐ กล่าวว่า ความพยายามดังกล่าวที่จะทำให้บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐเกิดความอ่อนแอลง และยังได้มองว่าภาษีนี้กระทบกับการจ้างงานของชาวอเมริกันในบริษัทเทคโนโลยีด้วย

Advertisement

โดยสหรัฐนั้นเตรียมที่จะใช้วิธีการเดียวในการขึ้นภาษีกับจีน ซึ่งสหรัฐมีมาตรา 301 ไว้ตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ และถ้าหากสหรัฐเอาจริงในการขึ้นภาษีการค้าจะทำให้สินค้าของฝรั่งเศสได้รับความเดือดร้อนทันที โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมที่จะหาทางขึ้นภาษีสินค้าจากฝรั่งเศส อาทิ ไวน์ มาแล้ว

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างยุโรปกับสหรัฐนั้นย่ำแย่ลงเรื่อยๆ หลังจากก่อนหน้านี้สหรัฐมีแผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป โดยเฉพาะเครื่องบินจากแอร์บัส โดยกล่าวหาว่าสหภาพยุโรปให้เงินอุดหนุน ขณะที่ยุโรปก็เตรียมตอบโต้กับสหรัฐในการขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องบินโบอิ้ง ในข้อกล่าวอ้างเช่นเดียวกัน

จึงต้องเฝ้าติดตามว่าต่างฝ่ายจะยอมลดราวาศอกให้กันหรือไม่

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image