‘จุรินทร์’ ชี้ 4 มาตรการช่วยชาวสวนมังคุด เห็นผลทันตา 3 วันราคาขยับเท่าตัว

ที่รัฐสภา ช่วงเย็นของวันที่ 26 กรกฎาคมท นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือเรื่องมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ มังคุด และลองกอง กับกระทรวงพาณิชย์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งว่า มอบหมายให้กรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการร่วมกับพาณิชย์จังหวัดและจังหวัดแหล่งเพาะปลูกและที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ได้แก่ ชุมพร ระนอง กระบี่ ตรัง พังงา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และจังหวัดชายแดนใต้

นายจุรินทร์กล่าวว่า โดยกระทรวงพาณิชย์จะให้ความช่วยเหลือ 4 มาตรการ คือ 1. จัดทำกล่องบรรจุ (Packaging) มังคุดและลองกองขนาดต่างๆ เพื่อง่ายต่อการขาย ทั้งกล่องขนาด 3 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม ตามความเหมาะสม โดยจะส่งตรงไปยังจังหวัดหรือจุดแหล่งผลผลิตรวมกลุ่มกันได้จำนวนมาก 2. การเตรียมช่องทางการจำหน่ายไว้ให้ โดยขณะนี้ได้มีการประสานงานกับสายการบินต่างๆ เพื่อให้สายการบินเหล่านั้น เปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อมังคุดหรือลองกองสามารถจะนำมาบรรจุกล่องที่มีบริการที่สนามบิน และสามารถนำขึ้นเครื่องได้ในปริมาณน้ำหนักที่เกินกว่าน้ำหนักปกติที่อนุญาตหนึ่งเท่า เช่น จาก 20 กิโลกรัมเป็น 40 กิโลกรัม หรือจาก 10 กิโลกรัมเป็น 20 กิโลกรัม เป็นต้น 3. กระทรวงพาณิชย์ได้มีการประสานงานกับร้านธงฟ้า ตลาด ปั๊มน้ำมันและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่จะเปิดบูธลองกองและมังคุดให้โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มเป็นอีกช่องทางของการจำหน่าย และ 4. ช่วยเหลือล้งไทย จัดหาดอกเบี้ยเงินกู้อัตราไม่เกิน 3% สำหรับล้งไทยรับซื้อผลไม้ไทยและส่งออก

นายจุรินทร์กล่าวว่า หลังจากได้เริ่มดำเนินมาตรการแล้วบางส่วน ปรากฏว่าขณะนี้ราคามังคุดเริ่มขยับขึ้นและล้งเข้ามารับซื้อมังคุดในราคาที่ดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว เช่น  นครศรีธรรมราช ปริมาณผลผลิตได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 40%  หรือชุมพร ราคามังคุดสูงขึ้น ส่วนลองกองนั้นจะเริ่มออกกลางเดือนสิงหาคมและผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดในเดือนกันยายน ซึ่งเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้ลองกองในปีนี้ไม่มีปัญหาเช่นกัน

Advertisement

ในวันที่ 27 กรกฎาคม นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเสริมว่า หลังจากกระทรวงพาณิชย์เริ่มใช้มาตรการมาตั้งแต่วันที่ 25-27 กรกฎาคม ส่งผลต่อราคาระบซื้อมังคุดเพิ่มต่อเนื่องจากเฉลี่ย 15 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มเป็น 28-30 บาท และราคาส่งออกขยับจากต่ำกว่า 30 บาท เป็น 55-60 บาทต่อกิโลกรัม โดยพ่อค้าสั่งซื้อมังคุดผ่านโครงการแล้วกว่า 200 ตัน และบรรจุกล่องละ 5 กิโลกรัม ขณะที่ 3 สายการบิน เปิดพื้นที่ในการจำหน่ายและช่วยเหลือในการขนส่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่วนผลักดันส่งออกผ่านล้งไทย ที่เตรียมงบ 1,000 ล้านให้กับผู้กู้เพื่อส่งออกผ่านธนาคารต่างๆ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 3% ได้มีผู้ประกอบการทยอยจัดส่งข้อมูลการรับซื้อและการกู้เข้ามาแล้ว

“ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างลงพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ ไม่แค่ภาคใต้ แต่จะดูแลทุกชนิด ทั้งลำไย เงาะ ลองกอง เป็นต้น โดยใช้แนวทางการดูแลเหมือนกัน ทั้งการเร่งกระจายผลผลิตช่วงออกสู่ตลาดพร้อมกัน ส่งเสริมการบริโภคในประเทศ และผลักดันส่งออก เพื่อสกัดราคาผลผลิตไม่ได้ตกต่ำในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ซึ่งหากพื้นที่ใดมีปัญหาผลผลิตล้นก็ให้แจ้งพาณิชย์จังหวัดและกรมการค้าภายใน เพื่อนำมาตรการออกไปดูแล“ นายวิชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image